นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ตามที่สมาคมฯได้ยื่นร้องเรียนต่อ กกต.ให้ตรวจสอบกรณีพรรคพลังประชารัฐจัดงานโต๊ะจีนระดมทุน โต๊ะละ 3 ล้านบาท 200 โต๊ะ ยอดเงินทะลุเป้า 650 ล้านบาทไปเมื่อ 19 ธ.ค.61 ที่เมืองทองธานีนั้น ซึ่งมีสำนักข่าวแห่งหนึ่งรายงาน “ผังโต๊ะจีน” ระดมทุนดังกล่าว ระบุเป็นของกระทรวงการคลัง 20 โต๊ะ 60 ล้านบาท ททท. 3 โต๊ะ 9 ล้านบาท ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 76 พ.ร.ป.ว่าด้วพรรคการเมือง ที่บัญญัติห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมือง หรือเข้าร่วมกิจกรรมระดมทุนของพรรค
นอกจากนั้นยังมีโต๊ะจีนในนามเลขาธิการพรรค 4 โต๊ะ 12 ล้านบาท และหัวหน้าพรรค 1 โต๊ะ 3 ล้านบาท และยังมี ดร.ที่ปรึกษาพิเศษ รมว.พาณิชย์ ซึ่งบริจาคสูงถึง 24 โต๊ะ 72 ล้านบาท กรรมการบริหารพรรคที่เป็นข้าราชการการเมือง 7 คน 3 โต๊ะ 9 ล้านบาท ในส่วนนี้ อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 73 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่บัญญัติว่า ห้ามมิให้ข้าราชการการเมืองใช้สถานะหรือตำแหน่งหน้าที่เรี่ยไร หรือชักชวนให้มีการบริจาคให้พรรคการเมือง หรือผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หากฝ่าฝืนระวางโทษจำคุก 2-10 ปี หรือปรับ 4 หมื่นถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
ซึ่งกรณีดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อให้ตรวจสอบตามที่กฎหมายกำหนดไปแล้วเมื่อ 21 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามในวันที่ 3 ม.ค.62 นี้เวลา 13.30 น. กกต.ได้ประสานแจ้งให้สมาคมฯเดินทางไปให้ปากคำและยื่นหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อที่ กกต.จะได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อเอาผิดพรรคการเมืองและบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายพรรคการเมือง 2560 บัญญัติต่อไป