“พลองใหญ่” ไม้งามแห่งป่าแล้ง — ร่องรอยความทรงจำในพรรณไม้ทรงโปรดของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

609

งามสงบกลางป่าเบญจพรรณ “พลองใหญ่” คือไม้น้ำเงิน–ม่วงที่ผลิบานเพียงช่วงสั้น ๆ ของปี แต่ทว่าทรงคุณค่าทั้งด้านนิเวศวิทยาและวัฒนธรรม เป็นหนึ่งในพรรณไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงโปรด และทรงใช้เป็นต้นแบบของการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของผืนป่าไทย

“พลองใหญ่” ราชินีสีครามกลางป่าเบญจพรรณ

ท่ามกลางผืนป่าเบญจพรรณแล้งของไทย หากมองต่ำลงตามแนวพุ่มไม้และกลุ่มต้นขนาดกลาง คุณอาจได้พบกับพรรณไม้รูปร่างสง่างามที่ยืนต้นเงียบงาม “พลองใหญ่” หรือ Memecylon ovatum Sm. พืชในวงศ์ MELASTOMATACEAE ที่มักโดดเด่นด้วยใบสีเขียวเข้มเป็นมันและช่อดอกสีม่วงน้ำเงินอันจัดจ้าน

พลองใหญ่เป็นไม้ต้นสูงราว 5 เมตร มีใบเดี่ยวหนา รูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม เรียงตรงข้ามอย่างเป็นระเบียบ เมื่อถึงฤดูกาลออกดอกในช่วงสิงหาคมถึงกันยายน ตูมดอกสีชมพูออกแดงจะค่อย ๆ คลี่บานกลายเป็นสีม่วงน้ำเงิน ทั้งต้นเหมือนถูกแต้มแต่งด้วยหมึกคราม ดอกย่อย 4 กลีบรวมเป็นกระจุกเล็ก ๆ ตามกิ่ง ซ่อนความงามละเอียดอยู่ท่ามกลางแสงแดดป่าแล้ง

ผลของพลองมีลักษณะกลม เมื่อดิบสีเขียวและเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มหรือดำเมื่อสุก มีเนื้อบาง ๆ หุ้มเมล็ด เป็นอาหารให้สัตว์ป่าขนาดเล็กหลายชนิด ช่วยคงวงจรชีวิตของผืนป่าไว้อย่างเงียบงาม

แต่ความสำคัญของพลองใหญ่มิได้หยุดเพียงความงามทางพฤกษศาสตร์ หากยังผูกพันกับประวัติศาสตร์การอนุรักษ์ของไทยอีกด้วย เพราะพรรณไม้นี้เป็นหนึ่งในไม้ทรงโปรดของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพของแผ่นดินไทยตลอดหลายทศวรรษ พลองใหญ่จึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งสายใยระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์และผืนป่าไทย

ข้อมูลด้านพืชศาสตร์ที่ถูกรวบรวม เช่น ในหนังสือ “90 พรรษา บรมราชินีนาถ พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ” รวมถึงงานศึกษาของ นักวิชาการอย่าง ดร.วีระชัย ณ นคร และภาพถ่ายจากสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ล้วนตอกย้ำถึงคุณค่าทางนิเวศและวัฒนธรรมของไม้ชนิดนี้

วันนี้ พลองใหญ่ยังคงยืนต้นกลางไพร เงียบ งาม และจริงแท้ ดั่งบทเรียนจากธรรมชาติที่ห้องสมุดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชพยายามส่งต่อ — โลกแห่งการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ผืนป่าที่คนรุ่นหลังต้องร่วมรักษาไว้ต่อไป