“ยาย”ร้อง”ปวีณา”หลานสาว วัย 12 ปี ถูกแม่แท้ ๆ พาไปค้าประวณีที่ญี่ปุ่น

211

“ยาย” ร้อง “ปวีณา” ช่วยหลานสาววัย 12 หลังสื่อญี่ปุ่นแฉถูกแม่พาเข้าสู่วงจรค้าประเวณีในร้านนวดในญี่ปุ่น ก่อนถูกจับตัวได้ที่ไต้หวัน

วันนี้ (23 พ.ย. 68) เวลา 10.00 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ยายและป้าของเด็กชายวัย 11 เดือน ได้เดินทางจากจังหวัดเพชรบูรณ์เข้าร้องทุกข์ หลังเกิดเหตุที่ทำให้ทั้งครอบครัวต้องตกอยู่ในความกังวล เมื่อมีรายงานจากสื่อญี่ปุ่นว่า “นางสาวเอ” ลูกสาวของยาย วัย 29 ปี ได้พาบุตรสาววัย 12 ปี ไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าประเวณีในร้านนวดที่ญี่ปุ่น และไม่สามารถติดต่อทั้งแม่และลูกได้ ทำให้ครอบครัวไม่รู้ชะตากรรมของสองแม่ลูกมาหลายวัน

นาง ปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้รับการแจ้งเตือนจากสื่อญี่ปุ่นที่มาสอบถามข้อมูล จึงประสานกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศโดยทันที ล่าสุดได้รับการยืนยันว่าเด็กหญิงวัย 12 ปีปลอดภัย และอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น ขณะที่แม่ของเด็กได้ถูกจับกุมที่ไต้หวันในข้อหาอยู่เกินกำหนดและเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี มูลนิธิปวีณาเตรียมเดินหน้าประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผบ.ตร และผอ.ศคคม.ตร. และกองการต่างประเทศ เพื่อใช้ช่องทางตำรวจสากล ขอข้อมูลจากทางการญี่ปุ่นและไต้หวันเพื่อตรวจสอบและติดตามคดีให้มีความคืบหน้าโดยเร็ว

นางปวีณายังให้สัมภาษณ์สื่อยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นจำนวน 5 สำนัก โดยอธิบายว่า ประเทศไทยมีการปรับปรุง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 เพื่อคุ้มครองเหยื่อ ห้ามลงโทษเด็กและผู้หญิงที่ถูกบังคับให้ค้าประเวณี แต่ให้ความสำคัญกับการลงโทษผู้ซื้อบริการแทน พร้อมระบุว่าไทยจริงจังในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และหวังว่าญี่ปุ่นจะเพิ่มมาตรการคุ้มครองเด็กและเหยื่อให้เข้มงวดยิ่งขึ้น เนื่องจากขณะนี้ญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับการค้าประเวณีในรัฐสภา

ขณะเดียวกัน ยายของเด็กหญิงเล่าว่า เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นกระทันหันและไม่เคยคาดคิด เพราะก่อนหน้านี้ ลูกสาวเดินทางไปทำงานนวดแผนไทยที่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2565 เนื่องจากรายได้ในไทยไม่พอเลี้ยงครอบครัว เดิมลูกสาวทำงานก่อสร้าง รับจ้างรายวันเพื่อดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราและป่วย รวมทั้งลูกอีกสองคน แต่รายได้ไม่เพียงพอ จึงไปเรียนงานนวดแผนไทยจนมีคนรู้จักชักชวนไปทำงานที่ญี่ปุ่น หลังไปทำงานที่ญี่ปุ่น ลูกสาวส่งเงินกลับมาบ้านเพียงเล็กน้อย เดือนละ 2–3 พันบาท เพราะมีรายได้ไม่มาก
ต่อมาในปี 2568 ลูกสาวคลอดลูกชายคนเล็กที่ญี่ปุ่น แต่ไม่ได้แจ้งว่าพ่อเด็กเป็นใคร หลังคลอดทำให้ไม่สามารถทำงานต่อได้และขาดรายได้ สถานการณ์นี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ลูกสาวเกิดความกดดันอย่างหนัก ก่อนตัดสินใจทำสิ่งที่ผิดพลาดที่สุด คือ พาลูกสาววัย 12 ปีไปค้าประเวณี ซึ่งครอบครัวไม่เคยทราบความจริงเลย

ยายเล่าต่อว่า ลูกสาวกลับไทยพร้อมทารกวัย 11 เดือน และมอบให้ยายเลี้ยงโดยบอกเพียงว่าลูกสาวคนโตอยู่ญี่ปุ่นเพราะไม่มีเงินเดินทางกลับ จนกระทั่งสื่อญี่ปุ่นเดินทางไปสัมภาษณ์ที่บ้าน แจ้งว่าเด็กถูกนำไปค้าประเวณี ทำให้ยายช็อกถึงขั้นเป็นลม และรีบติดต่อมูลนิธิปวีณาเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะนอนไม่หลับและเป็นห่วงหลานอย่างหนัก

ท้ายที่สุด มูลนิธิปวีณาหงสกุลรับเรื่องไว้แล้ว และเตรียมพายายและป้าเข้าพบรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงเร่งประสานกระทรวงต่างประเทศ ตำรวจสากล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในญี่ปุ่นและไต้หวัน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 12 ปี รวมถึงติดตามกระบวนการทางกฎหมายของแม่ เพื่อหาทางช่วยเหลือทั้งครอบครัวอย่างรอบด้าน