นายราเมศ รัตนะเชวง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการนายชวน หลีกภัย ได้กล่าวถึงกรณีรายงานข่าวเรื่องอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ว่า ถือว่าเป็นข่าวดีที่กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าตามหลักการการดำเนินคดีอาญาที่เริ่มต้นคดีมาจากพนักงานอัยการ โดยเฉพาะในคดีอาญาที่สำคัญ เมื่อผลคำพิพากษาของศาลชั้นต้นยังมีประเด็นที่ต้องการการกลั่นกรองจากศาลที่สูงกว่าคือศาลอุทธรณ์ ผลคดียังไม่เป็นไปตามคำฟ้องของพนักงานอัยการที่เริ่มต้นฟ้องคดี โดยปกติเมื่อศาลชั้นต้นมิได้มีคำพิพากษาตามข้อเท็จจริงที่พนักงานอัยการฟ้อง อัยการก็ต้องทำหน้าที่ในการอุทธรณ์ เพื่อให้ศาลอุทธรณ์ได้พิจารณา และในส่วนคดีของนายทักษิณ ชินวัตร ในคดีมาตรา 112 ยังมีประเด็นข้อถกเถียง และประชาชนให้ความสนใจ การที่มีรายงานข่าวว่าจะมีการอุทธรณ์จึงถือว่าเป็นข่าวดีส่งท้ายปีเก่า ส่วนนายทักษิณก็ใช้สิทธิในการต่อสู้คดีตามกระบวนการได้อยู่แล้ว หากอัยการยื่นอุทธรณ์คดีนี้ ตนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
นายราเมศ กล่าวต่อไปว่า ประชาชนยังจดจำในกรณีที่อัยการไม่ฎีกาคดีคุณหญิงพจมาน ซึ่งข้อเท็จจริงในคดีนี้ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 3 ต่อมาศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยที่ 1 ยกฟ้องจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ซึ่งขณะนั้นหลายฝ่ายก็ออกมาท้วงติง แต่เมื่อเป็นดุลพินิจของพนักงานอัยการก็ยังเป็นคำถามมาจนถึงทุกวันนี้ล่าสุดคดีที่นายทักษิณฟ้องนายชวน หลีกภัยเป็นจำเลย ความผิดฐานหมิ่นประมาท ศาลชั้นตั้นยกฟ้อง เพราะข้อเท็จจริงชัดเจนว่าไม่มีความผิด เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริงไม่ว่าจะเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเรื่องทุจริต เรื่องการเลือกปฏิบัติ เรื่อกรือเซะ ตากใบ เรื่องปัญหายาเสพติด เรื่องปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ปฏิบัติโดยละเมิดหลักกฎหมายละเมิดกระบวนการยุติธรรม นายทักษิณไม่อุทธรณ์แต่พนักงานอัยการยื่นอุทธรณ์ จึงได้แต่หวังว่าคดีนายทักษิณฐานความผิดมาตรา 112 เป็นคดีที่สำคัญและยังมีประเด็นที่ควรให้ศาลสูงได้พิจารณา อยากให้เป็นจริงตามรายงานข่าวที่รายงานว่าพนักงานอัยการจะยื่นอุทธรณ์คดีนี้

