ปทุมธานี, วันที่ 15 พ.ย. – “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน เรียกร้องให้กรมราชทัณฑ์ และ ศาล คุ้มครองสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของผู้ต้องขัง ให้ได้รับการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม และได้รับสิทธิในการประกันตัว ตามหลักการในรัฐธรรมนูญ โดยอ้างอิงถึงกรณี เอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำกลางคลองเปรม มานานกว่า 2 เดือนแต่กลับไม่ได้รับพิจารณราส่งตัวไปรับการรักษาโรคฝีในตับอย่างต่อเนื่อง แม้มีการทำหนังสือขอส่งตัวเข้ารับการรักษามานานกว่า 2 เดือน สะท้อนความล้มเหลวของกรมราชทัณฑ์ในการดูแลและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของผู้ต้องขังอย่างชัดเจน
ชลธิชากล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นอกจากกรณีของเอกชัยแล้ว ตนได้รับทราบข้อมูล และข้อร้องเรียนจำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่า เรือนจำไทยประสบปัญหาด้านมาตรฐานในการควบคุมดูแลผู้ต้องขังมาอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายประการ ทั้งการต้องรอพบแพทย์หลายสัปดาห์ เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ต้องขัง การไม่ได้รับยารักษาโรคที่เหมาะสมและมีคุณภาพ รวมถึงปัญหาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่เพียงพอในการควบคุมผู้ต้องขังไปรักษาพยาบาลนอกเรือนจำ และจากกรณีของเอกชัย ยังได้สะท้อนให้เห็นปัญหาระบบคำร้องของเรือนจำ ที่ยังต้องใช้การเขียน ส่งผลให้เอกสารคำร้องต่าง ๆ ของผู้ต้องขังและทนายความเกิดการสูญหายได้อย่างง่ายดาย

“ดิฉันขอยืนยันว่า สิทธิในการได้รับการรักษาพยาบาล คือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ผู้ต้องขังทุกคนต้องได้รับสิทธินี้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันโดยไม่ล่าช้า ดิฉันจึงขอเรียกร้องไปยังกรมราชทัณฑ์ ให้พัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ของเรือนจำทุกแห่งให้ได้มาตรฐาน ให้สามารถดูแลสุขภาพผู้ต้องขังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกรมราชทัณฑ์ ต้องรับผิดชอบต่อการทำเอกสารคำร้องขอรับการรักษาพยาบาลของคุณเอกชัยและทนายความสูญหาย โดยการพิจารณาคำร้องของคุณเอกชัยและทนายความอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้อาการของโรคเลวร้ายขึ้นจากการไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และกรมราชทัณฑ์ควรต้องพิจารณาจัดทำระบบการยื่นคำร้องที่จะไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเช่นนี้อีก” สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน กล่าว
ชลธิชา กล่าวเรียกร้องไปยังศาล ให้พิจารณาการให้ประกันตัวเอกชัย เนื่องจากคดีความของอกชัยยังไม่เป็นที่สิ้นสุด จึงยังคงสถานะเป็นผู้บริสุทธิ์ตามรัฐธรรมนูญไทย และหลักการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ (Presumption of Innocence) เพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ให้เอกชัยได้ออกมาต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม ไม่ถูกปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้กระทำผิด และได้รับการรักษาโรคฝีในตับอย่างเหมาะสมในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการให้บริการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องโดยเร็ว

