กรุงเทพฯ, วันที่ 15 พ.ย. – กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “เปิดลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเงินสด ถึงวันที่ 30 พ.ย. 68” รองลงมาคือเรื่อง “เริ่มแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต วันที่ 10 – 14 พ.ย. 68” เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ตื่นตระหนก และวิตกกังวลในสังคม รวมทั้งอาจทำให้สูญเสียทรัพย์สิน และข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์ โฆษก ดีอี กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (AFNC) ว่า ระหว่างวันที่ 7 – 13 พฤศจิกายน 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 998,165 ข้อความข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 1,186 ข้อความ สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 1,157 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 26 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 3 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 249 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 97 เรื่อง

นางสาวสุชาดา กล่าวว่า ข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ เรื่องเปิดลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเงินสด ถึงวันที่ 30 พ.ย. 68, เริ่มแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต วันที่ 10 – 14 พ.ย. 68, เตือน 11-13 พ.ย. 68 พายุ ฟงวอง เข้าไทย เฝ้าระวังภาคเหนือ-อีสาน-กลาง, โครงการคนละครึ่งพลัส ดึงงบประมาณมาจาก สปสช. และ กยศ. และ นมธัญพืช Glusure ลดน้ำตาลในเลือด จัดการเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “เปิดลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเงินสด ถึงวันที่ 30 พ.ย. 68” ดีอี ประสานงานกับ กระทรวงการคลัง พบว่าไม่เป็นความจริง ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่นเดียวกับข่าวปลอมอันดับ 2 เรื่อง “เริ่มแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต วันที่ 10 – 14 พ.ย. 68” ซึ่งไม่เป็นความจริง ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันยังไม่มีโครงการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียนเงินดิจิทัลวอลเล็ต ดังนั้นข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นข้อมูลเท็จ
นางสาวสุชาดา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน และส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เกิดความวิตกกังวล หรืออาจสร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด
หากประชาชน พบข่าวน่าสงสัย ข้อมูลบิดเบือน สามารถแจ้งเบาะแส และตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ โทรสายด่วน 1111 ต่อ 87 (24 ชม.) หรือที่| เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com | Line ID: @antifakenewscenter| Facebook : Anti-Fake News Center Thailand | X : @AFNCThailand | TikTok : @antifakenewscenter | IG : afnc_thailand/

