ชายชาวลาวเมาสุรานอนกลางถนนบางแวก เขตภาษีเจริญ ถูกรถชนหลายคันเสียชีวิต แม้มีพลเมืองดีพยายามช่วยเตือนแต่ไม่สำเร็จ ขณะตำรวจสามารถติดตามรถกระบะคันเกิดเหตุได้แล้วและอยู่ระหว่างสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย -ด้านภรรยาอยากนำร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลรับกังวลไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะเป็นต่างชาติ ขณะนายจ้างพร้อมให้การช่วยเหลือเต็มที่

ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบกรณี เพจ Social Hunter 2022 โพสต์ข้อความพร้อมภาพระบุ (14 พ.ย.) คนเมานอนกลางถนน ถูกรถหลายคันชนดับ ขณะเกิดเหตุสาวรายหนึ่ง ขับรถผ่านมาเห็นพยายามตะโกนให้รถคันอื่นๆหยุดรถแต่ไม่มีใครยอมหยุดรถให้ เป็นเหตุให้ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่งผลให้โซเชียลมีเดียต่างวิพากษ์วิจารณ์
จากการลงพื้นที่พบว่าในบริเวณเกิดเหตุอยู่บริเวณปากซอยบางแวก 54 ถนนบางแวก เขตภาษีเจริญโดยยังคงพบร่องรอยคราบเลือดที่แห้งติดผิวจราจรใกล้กับฟุตบาทเป็นจุดๆ
โดยน.ส.เอ๋ฯ(ชาวลาว) พนักงานร้านอาหารใกล้กับที่เกิดเหตุเล่าให้ทีมข่าวฟังว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนสปป.ลาว ที่มักจะชอบมาเล่นสนุกเกอร์หลังเลิกงานที่เจ้าตัวเป็นพนักงานอยู่ภายในซอยเดียวกัน หรือบางครั้งภรรยาก็จะมาตามกลับที่พัก ซึ่งครั้งนี้ผู้เสียชีวิตมาคนเดียวโดยมีอาการเมาสุรามา ก่อนที่จะมาถึงร้านแล้วก็เข้าไปเล่นสนุกเกอร์ จากนี้นได้ออกจากร้านแล้วไปถูกรถชนตามที่ปรากฏในภาพ
โดยมีพลเมืองดีขับรถมาจอดรถคนละเล่นกับพี่ผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในระยะไม่ไกลมาก จากนั้นได้เปิดประตูลงมาจากรถพร้อมกับตะโกนส่งเสียง เพื่อให้รถคันอื่นหยุดส่วนรายละเอียดตนเองไม่ทราบเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
ขณะที่นายสรศักดิ์ แป้นสกุล หัวหน้ารักษาความปลอดภัยหมู่บ้านฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ เล่าว่าหลังจากเห็นภาพวงจรปิดพบว่าผู้ตายเดินออกจากร้านอาหารเนื่องจากมีอาการเมาสุราแล้วมานั่งอยู่เสาไฟริมฟุตบาทประมาณ 10-20 นาทีจากนั้นก็เดินลงมานอนกลางถนนบริเวณเลนส์ซ้ายสุด ซึ่งถนนดังกล่าวมี 2 เลนรถวิ่งสวนกัน จากนั้นก็มีพลเมืองดีที่เป็นผู้หญิงขับรถมาจอดคนละเลนตรงข้ามกับร่างของผู้เสียชีวิตพร้อมกับเปิดไฟฉุกเฉินและร้องตะโกนเพื่อห้ามไม่ให้รถคันอื่นเฉี่ยวชนซ้ำ แต่ปรากฏว่าได้มีรถกระบะขับมาเฉี่ยวชนกับร่างของผู้เสียชีวิตที่นอนอยู่ ก่อนจะมีรถอีก 2-3 คันขับมาเฉี่ยวชนช้ำจนร่างของชายคนดังกล่าวกระเด็นและเสียชีวิตท่ามกลางหญิงพลเมืองดีที่กรีดร้องด้วยความตกใจ
นายสรศักดิ์ มองว่าพลเมืองดีมีเจตนาในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแต่มองว่าการจอดรถควรจะจอดปิดขวางเลนฝั่งเดียวกับที่ชายคนดังกล่าวนอนอยู่ เพราะหากไม่ปิดถนนและรถวิ่งมาด้วยความเร็วจะทำให้รถเบรคไม่ทันและชนร่างของผู้บาดเจ็บในระยะประชันชิด แต่ยืนยันว่าคนพี่ขับรถชนก็มีความผิดจะต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลบางเสาธง ให้ข้อมูลว่าขณะนี้สามารถติดตามรถกระบะคันที่เกิดเหตุได้แล้ว โดยได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนและรับสารภาพตามข้อเท็จจริงโดยพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวนั้นมีประกันภัยซึ่งตำรวจจะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมดโดยขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลใดทั้งสิ้นแต่หลังจากนี้หากรวบรวมพยานหลักฐานแล้วเสร็จก็จะดำเนินการโดยเร็ว
เบื้องต้นได้มีการสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปากยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ด้าน น. ส. มนต์ตา ลีละผลิน เจ้าของกิจการร้านอาหารซุ้มไผ่ พร้อมด้วย นางวอน อายุ 36 ปี ชาวลาวซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว
โดย น.ส.มนต์ตา กล่าวว่าในส่วนของ นายบี้ สานีจัน อายุ 37 ปี สัญชาติลาวผู้เสียชีวิต กับ น.ส.วอนฯ2 สองสามีภรรยาทำงานอยู่ที่ร้านมากกว่า 10 ปี ขณะนี้ศพของผู้เสียชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช โดยอยู่ระหว่างการประสานติดต่อกับครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ สปป.ลาว เพื่อให้มารับร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ประเทศบ้านเกิด เบื้องต้นในส่วนของเงินสินไหมทดแทนหรือเงินเยียวยาขณะนี้ทางร้านในฐานะเป็นนายจ้างอยู่ระหว่างการเจรจากับคนขับรถกระบะที่เป็นผู้ก่อเหตุขับรถชน เนื่องจากทราบว่าตำรวจสามารถติดตามตัวผู้กระทำความผิดได้แล้ว ส่วนการเยียวยาจาก พ.ร.บ.รถยนต์และประกันภัยรถยนต์ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าจะต้องนำญาติของผู้เสียชีวิตมาดำเนินการ ในฐานนะนายจ้างก็ยินดีที่จะดำเนินการให้ทุกขั้นตอนรวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ เพียงแต่ว่าตอนนี้ทางภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสต้องการที่จะนำศพผู้เสียชีวิตออกมาบำเพ็ญกุศล
ขณะที่น.ส.วอน ฯ ระบุว่ามีความกังวลใจเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะตนเองเป็นคนต่างชาติแต่ยืนยันว่าเข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายจึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือดูแล
คลิกดูคลิปเหตุการณ์ที่นี่

