สมาคมสื่อชายแดนใต้ ขับเคลื่อน “ทำดี 100 วัน” ให้กำลังใจเหยื่อระเบิด ปี 61 วอนขอสนับสนุนอุปกรณ์ซ่อมรถ สร้างอาชีพเสริม

669

ยะลา, วันที่ 14 พ.ย. – โครงการ “ทำดี 100 วัน เพื่อแม่ของแผ่นดิน” กิจกรรม “ทำดี 100 วัน” ถวายแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง องค์ ‘แม่ของแผ่นดิน’ โดยสมาคมสื่อมวลชนเพื่อพัฒนาชายแดนภาคใต้ (JSD-South) ร่วมกับภาคเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ทำกิจกรรมสาธารณกุศลโดยให้ความช่วยเหลือกลุ่มคนเปราะบางในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 20

น.ส.นาซือเราะ เจ๊ะฮะ นายกสมาคม JSD-South กล่าวว่า นอกเหนือจากภารกิจสร้างสรรค์สังคม เช่น มอบสิ่งของและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้กับผู้ป่วยติดเตียง การช่วยเหลือด้านปัจจัยพื้นฐานมอบอิฐเพื่อสร้างและซ่อมแซมบ้านเรือน และแจกอาหาร ข้าวสารอาหารแห้ง 100 ชุดต่อเนื่อง 100 วัน แล้ว วันนี้ทีมงานได้ลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจ รับฟังปัญหา และความต้องการของ นางวิภาวรรณ ปลอดแก่นทอง เหยื่อความรุนแรง ซึ่งเป็นตัวอย่างของกลุ่มเปราะบางที่ต้องต่อสู้หลังได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด

ย้อนกลับไปในเช้ามืดของวันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน 2561 เวลาประมาณ 05.45 น. ได้เกิดเหตุระเบิดรุนแรงขึ้นในสวนยางพารา พื้นที่บ้านแค หมู่ 1 ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา ส่งผลให้นางวิภาวรรณ อายุ 41 ปี (ขณะนั้น) ได้รับบาดเจ็บสาหัส จนต้อง ตัดขาซ้ายตั้งแต่ใต้หัวเข่า, สูญเสียการมองเห็น (ตาบอด) และมือข้างซ้ายไม่สามารถใช้งานได้อย่างปกติ แม้จะต่อสู้รักษาตัวจนกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ แต่ปัญหาปากท้องที่ต้องพึ่งพารายได้หลักวันละ 300 บาท ทำให้เจ้าตัว ระบุว่า เกิดความท้อแท้จนแอบร้องไห้ทุกวัน และขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ และภาคีเครือข่าย สนับสนุนอุปกรณ์ซ่อมรถ เพื่อสร้างอาชีพเสริมให้ครอบครัว

ปัจจุบัน เธอได้ย้ายมาพักอาศัยที่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 4 ต.ตาชี โดยใช้ เงินเยียวยาที่ได้รับจาก ศอ.บต. ในการซื้อที่ดินและปลูกสร้างเป็นที่อยู่อาศัย โดยนางวิภาวรรณฯ เล่าว่า เธอพยายามปรับตัวจนสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เกือบทั้งหมด ทั้งการขับรถจักรยานยนต์ไปตลาด, ส่งลูกไปโรงเรียน, และทำงานบ้านด้วยตัวเอง”แรก ๆ ก็ลำบากมาก ทำไม่ได้ แต่สู้จนตอนนี้ชินกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ต้องยอมรับ ถามว่าลืมไหมกับสิ่งที่เกิดขึ้น อยากบอกว่า ไม่เคยลืมเลย มันจำได้ตลอด”

แม้สภาพร่างกายจะปรับตัวได้ แต่สิ่งที่ทำให้นางวิภาวรรณฯ รู้สึกท้อแท้จนต้องแอบร้องไห้ทุกวัน คือ ปัญหาเรื่องรายได้ เธอเผยว่า สภาพขาที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้เธอไม่สามารถกลับไปกรีดยางในสวนซึ่งมีพื้นที่ไม่ราบเรียบได้อีก ทุกวันนี้รายได้หลักจึงต้องพึ่งพา สามีและลูกชาย ที่ทำงานกรีดยางสองคน รวมกันแล้วมีรายได้เพียง วันละ 300 บาท เพื่อเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัวรวม 7 ชีวิต

“วันที่ฝนตกก็ไม่ได้เงินเลย ตอนนี้ขาไม่ดีอยู่แล้ว ถ้าไปรับจ้างกรีดยางอีกก็อาจมีปัญหา ทำอะไรมากก็ไม่ได้ แอบร้องไห้ตลอด ท้อ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย” ความหวังเดียวของนางวิภาวรรณฯ คือการได้รับ อุปกรณ์ซ่อมรถจักรยานยนต์ เพื่อให้สามีและลูกชายสามารถเปิดร้านซ่อมเล็ก ๆ เป็นอาชีพเสริมหลังเลิกกรีดยางได้ ซึ่งจะช่วยให้เธอสามารถช่วยดูแลงานในร้านได้ด้วย

เธอเล่าว่าช่วงแรกหน่วยงานภาครัฐได้เคยเอาอุปกรณ์มาให้แล้วครั้งหนึ่ง แต่สามีคนก่อนขนไปหมดตอนที่แยกทางกัน รวมถึงพาลูกที่พิการไปด้วย หวังว่าจะมีผู้สนับสนุนอุปกรณ์ชุดนี้เพื่อพลิกฟื้นให้ครอบครัวกลับมายืนหยัดได้อย่างเข้มแข็งอีกครั้ง ทั้งนี้ขอขอบคุณสมาคมสื่อมวลชนฯ และผู้สนับสนุนที่จัดกิจกรรมทำดี 100 วัน และชื่นชมความตั้งใจของภาคีเครือข่าย โดยระบุว่า “ในฐานะชาวบ้านที่ไม่ได้มีอะไรมาก ขอเชิญชวนทุกคนให้มาร่วมทำความดีเพื่อแม่หลวงของแผ่นดินในโอกาสนี้ด้วย”

โครงการนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นขององค์กรสื่อในพื้นที่ ที่ต้องการใช้พลังของสื่อมวลชนในการขับเคลื่อนงานด้านสังคมและมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายที่สำคัญหลากหลายกลุ่ม ได้แก่ ศูนย์พัฒนาอาชีพกลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ และผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ นายปกรณ์ พึ่งเนตร บรรณาธิการบริหารเนชั่นทีวี/เนชั่นออนไลน์ และบรรณาธิการศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา, NBT จังหวัดยะลา และหน่วยงานรัฐอย่าง นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร เลขาธิการ ศอ.บต. และ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9