สสส. เปิดเวที จ.ยะลา บูรณาการความร่วมมือลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หลังพบแนวโน้มคนพื้นที่เป็นเพิ่มขึ้น

316

ที่ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา, วันที่ 13 พฤศจิกายน – ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ผศ.ดร.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ ผู้แทนกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรองอธิการบดีฝ่ายบริหารและยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นประธานเปิดเวที “Kick Off  บูรณาการความร่วมมือในการพัฒนานโยบายสาธารณะการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อ เพื่อลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) จังหวัดยะลา” พร้อมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือและประกาศเจตนารมณ์ “การบูรณะความร่วมมือในการพัฒนานโยบายสาธารณะลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) จังหวัดยะลา”

ภายในงานมีนายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ดร. นายแพทย์ สมหมาย บุญเกลี้ยง  ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. นายรอซีดี เลิศอริยะพงษ์สกุล ประธานสมัชชาสุขภาพจังหวัดยะลา ดร.เพ็ญ สุขมาก ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชนจากทุกอำเภอในจังหวัดยะลา เข้าร่วมกว่า 200 คน

ดร.เพ็ญ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์โรค  NCDs ในจังหวัดยะลามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ ทั้งนี้ อายุขัยเฉลี่ยของเพศชายอยู่ที่ 69 ปี แต่มีปีสุขภาวะเพียง 66 ปี ส่วนเพศหญิงมีอายุขัยเฉลี่ย 80 ปี แต่ปีสุขภาวะเพียง 71 ปี แสดงให้เห็นถึงภาระโรคที่ยาวนานถึง 6–10 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอและภาวะเนือยนิ่ง

ข้อมูลพบว่า ประชาชนทั่วไปในจังหวัดยะลามีกิจกรรมทางกายเพียงร้อยละ 78 ขณะที่กลุ่มเด็กและเยาวชนมีกิจกรรมทางกายเพียงร้อยละ 21.40 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่องค์การอนามัยโลกกำหนด อีกทั้งคนยะลามีภาวะเนือยนิ่งเฉลี่ยสูงถึง 14.53 ชั่วโมงต่อวัน (ไม่รวมเวลานอนหลับ) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ

ดร.เพ็ญ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา สสส. โดยสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ ได้สนับสนุนสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดำเนิน “โครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและลดภาวะเนือยนิ่ง” เพื่อสร้างต้นแบบการบูรณาการกลไกความร่วมมือในการจัดการปัจจัยเสี่ยง NCDs ในระดับจังหวัด โดยดำเนินงานนำร่องใน 4 จังหวัด ได้แก่ ยะลา กาญจนบุรี น่าน และสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ยะลาถูกคัดเลือกเป็นพื้นที่นำร่อง เนื่องจากมีกลไกธรรมนูญสุขภาพจังหวัดที่เข้มแข็ง และมีความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่น และสถาบันการศึกษาในการร่วมขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพเชิงรุกอย่างเป็นรูปธรรม

ดร.เพ็ญ กล่าวเว่า โครงการนี้มีเป้าหมายสำคัญในการเชิญภาคีเครือข่าย 32 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และท้องถิ่น มาร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ เพื่อร่วมกันออกแบบและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลดปัจจัยเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ลดอุบัติการณ์ และลดภาวะแทรกซ้อนจากโรค NCDs ในจังหวัดยะลา การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการพลังทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันสร้าง “ยะลาน่าอยู่” ที่ประชาชนมีสุขภาวะดี ลดภาระโรค และมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนในระยะยาว