ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.,พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.2,พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ รอง ผบก.น.2,พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม,พ.ต.ท.พูลพัฒน์ ธรรมรัชต์เจริญ รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม,พ.ต.ท.อัษฎาศ์ เนตรพุดซา สว.สส.สน.โคกคราม

ฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม ได้จับกุมนายไพรัตน์ คล้อยเจริญ อายุ 38 ปี พร้อมด้วยของกลาง เสื้อกั๊กสีดำ จำนวน 2 ตัว หลังได้รับแจ้งเหตุจากนายซูเพียน ตือราเฮง อายุ 19 ปี ผู้เสียหาย แจ้งว่าขณะปฎิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย หมู่บ้านย่านลาดปลาเค้า คนร้ายเป็นชายได้ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาจอดหน้าหมู่บ้าน แล้วลงรถเดินเข้ามาหา จากนั้นได้ชักอาวุธปืนข่มขู่ ได้เอาโทรศัพท์มือถือไอโฟน 11 สีเขียว จำนวน 1 เครื่องและบัตรประชาชนผู้เสียหายไป จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ต่อมาฝ่ายสืบสวนได้สืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายไพรัตน์ และดำเนินการขอหมายจับจากศาลอาญา กระทำความผิดฐาน “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน,โดยมีอาวุธปืน,โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม,โดยแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร” โดยทราบว่านายไพรัตน์อยู่ที่บ้านเอื้ออาธร 44 ตำบลคลองหนี่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจและแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมทั้งแสดงหมายจับให้ ผู้ถูกจับ ตรวจและอ่านดูจนเข้าใจและได้ยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้นฝ่ายสืบสวน สน.โคกครามได้ทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่นายไพรัตน์ ใช้อยู่ในขณะนี้ ซึ่งเป็นรถที่ได้แจ้งหายไว้ที่ สภ.คลองหลวง และได้ประสานกับ สภ.คลองหลวง ไว้แล้ว จะเข้ามาทำการสอบปากคำนายไพรัตน์ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้งเมื่อคืนวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมานายไพรัตน์ ให้การยอมรับสารภาพว่าตนได้ก่อเหตุลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นกาแลคซี่เอ 06 สีฟ้า ของ รปภ.ที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม พื้นที่ สภ.บางปะอิน และน่าเชื่อว่าได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีกหลายครั้ง โดยจากการซักถามทราบว่าเคยถูกจับกุมในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อ ก.ค.68 ที่ผ่านมา

