ไทยนำอาเซียนลุยปราบสแกมเมอร์! “อนุทิน” เปิดประชุมตำรวจอาเซียน หวังปิดเกมอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ – ตร.จ่อส่งกำลังร่วม เขมร-พม่า-ลาว สังเกตการณ์ฐานแก๊งโกงออนไลน์

472

นายกรัฐมนตรี “อนุทิน ชาญวีรกูล” เปิดประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 ที่กรุงเทพฯ เดินหน้า​ ผนึกกำลัง 10 ประเทศอาเซียน สกัดอาชญากรรมข้ามชาติ-สแกมออนไลน์ ด้าน “พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช” เตรียมเสนอแนวคิดส่งตำรวจไทยร่วมสังเกตการณ์ในกัมพูชา เมียนมา และลาว พร้อมใช้แรงกดดันจากสังคมโลกเร่งประเทศต้นทางจัดการแก๊งสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

วันที่​ 4 พ.ย.68 เวลา​ 10.00น.ที่​ รร​.แกรนด์ไฮแอดเอราวัณ​ ฯ​ ​นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตำรวจแห่ง ร่วมเปิดการประชุม หัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 (ASEAN Chiefs of National Police – ASEANAPOL) ณ กรุงเทพมหานคร ในฐานะเจ้าภาพ ภายใต้ หัวข้อ ร่วมมือปฏิบัติการปรายปรามการหลอกลวง ขัดขวางการฉ้อโกงและปกป้องประชาชน หรือ ‘Collaboration in Action: Crushing Scam, Disrupting Fraud, and Protecting People’ ระหว่างวันที่ 3-7 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ที่จะมีการประชุมในเรื่องของการประสานงานภูมิภาค เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญกรรมไซเบอร์ การค้ามนุษย์ การหลอกลวงฉ้อโกงออนไลน์ การค้ายาเสพติด สะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของกองกำลังตำรวจแห่งชาติอาเซียนในการปกป้องชุมชนทั้งในสภาพแวดล้อมทางกายภาพและดิจิทัล

โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วาระสำคัญที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเสนอต่อที่ประชุมในครั้งนี้ คือเรื่องอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งสอดคล้องกับที่รัฐบาลได้บรรจุเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ จึงขอให้ ประชาชนมั่นใจว่าทางรัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย ซึ่งเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจและแน่วแน่ในการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นปัญหาที่ทำลายทั้งทรัพย์สินพี่น้องประชาชนและเศรษฐกิจ แต่ประเทศไทยไม่สามารถดำเนินการได้เพียงลำพังจะต้องได้รับความร่วมมือจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งตนเชื่อว่าไม่มีประเทศไหนยอมในเรื่องนี้ และหากสามารถดำเนินการผ่านความร่วมมือได้จะทำให้การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพได้

ด้าน​ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า การประชุมในครั้งนี้จะเป็นการหารือ ในอาชญากรรมทุกรูปแบบที่เป็นภัยต่อสมาชิกประเทศอาเซียน ซึ่งจะมีการประชุมทั้งกลุ่มผู้บริหารและแบบตัวต่อตัวกับประเทศสมาชิก โดยเฉพาะประเทศประเทศกัมพูชา เมียนมาร์ และ ลาว ซึ่งประเทศเหล่านี้ทราบดีว่ามีปัญหาที่ทั่วโลกจับตามอง ในเรื่องของสแกมเมอร์และอาชญากรรมทางไซเบอร์ต่างๆ โดยเฉพาะกัมพูชา ได้มีการส่งนายตำรวจระดับรอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมคณะ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ โดยเมื่อช่วงเช้าได้มีการพูดคุย เบื้องต้นในโต๊ะอาหาร ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับจากทางกัมพูชาเป็นอย่างดี

แต่หลังจากนี้จะมีการประชุมที่เป็นรูปแบบทวิภาคี ซึ่งตนจะเสนอแนวทางในเรื่องของการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ โดยการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยไปร่วมเฝ้าสังเกตการณ์ทั้ง 3 ประเทศ ที่พบว่ามีปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ส่วนจะได้รับความร่วมมือมากน้อยเพียงใด ตนเองตั้งใจจะพิสูจน์ความจริงใจในการแก้ไขปัญหาซึ่งต้องใช้เวลา แม้จะมีโอกาสเพียง 50/50 แต่ปัญหาดังกล่าวทั่วโลกเฝ้าจับตาที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้สำเร็จลุล่วง เนื่องจากมีหลายประเทศได้รับผลกระทบ

ส่วนแนวคิดในการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในแต่ละประเทศ เป็นการส่ง ส่งเข้าไปร่วมสังเกตการณ์กับเจ้าหน้าที่ของประเทศนั้นๆ ในการปฏิบัติงาน โดยตำรวจไทยจะส่งข้อมูลและเป้าหมายไปให้ประเทศต้นทางดำเนินการ แต่ไม่ใช่เป็นการเข้าไปจับกุม หรือปฏิบัติการกับฐานสแกมเมอร์ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการได้ แต่จะใช้นานาอารยประเทศหรือสังคมโลกกดดัน เพราะทุกคนรู้ว่าปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มีต้นทางอยู่ที่ประเทศไหนพร้อมยืนยัน ว่าประเทศไทยไม่มีสแกมเมอร์ที่เป็นฐานใหญ่อย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่ามีเพียงการลักลอบจากชาวต่างชาติที่เข้ามาตั้งเครือข่าย และตำรวจไทยได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว