วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 00.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. , พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคํา ผบก.น.5 , พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1 , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ภพธรจิตต์หมั่น รอง ผบก.น.5 , พ.ต.อ.วิริยะ โชติกวีผกก.ปพ.บช.ปส. , พ.ต.อ.คณพศ ธนภูมิบุญญินผกก.1 บก.ปส.1 , พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี , พ.ต.อ. ศิรณวิชญ์ อินทรผกก.กก.สส.บก.น.5
นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจศอ.ปส.ตร. , ศอ.ปส.บช.น. , บก.สส.บช.น. , บก.น.5 และ บช.ปส. เปิดปฏิบัติการทลายปาร์ตี้ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหา 4 ราย คือ “มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน,ยาบ้า,ยาไอซ์ และยาอี) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย , มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) เพื่อเสพโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย , จำหน่ายหรือจัดหาสารระเหยให้แก่ผู้ซึ่งตนรู้หรือควรรู้ว่าเป็นผู้ติดสารระเหย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” จูงใจ ชักนำ ยุยง ส่งเสริมใช้อุบายหลอกลวง หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด ให้ผู้อื่นเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และสารระเหย ตามมาตรา 171 และ 173

ตรวจยึดของกลาง ได้แก่ 1.ยาไอซ์ 1.11 กรัม 2.ยาบ้า 2 เม็ด 3.ยาอีน้ำ 1 ขวด 4.เคตามีน 0.75 กรัม 5.ยาไวอากร้า 2 กล่อง 6.ยาป๊อปเปอร์ (สารระเหย ใช้ลดความปวดทวารหนัก) จำนวน 30 ขวด 7.เข็มฉีดยา 10 เข็ม 8.อุปกรณ์การเสพยาเสพติด 9.ถุงยางอนามัย 10.เจลหล่อลื่น จับกุมได้ที่ห้องสูทในโรงแรมหรูชื่อดัง ในซอยสุขุมวิท 13
พฤติการณ์กล่าวคือ กลุ่ม LGBTQ+ รวมตัวเสพยาเสพติและมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งการแพร่ระบาดของยาเสพติดในกลุ่มชนชั้นสูง ได้รับการแจ้งเบาะแสจากประชาชนผ่านชุดลาดตระเวนออนไลน์ และตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. “ใช้มาตการเด็ดขาด” สแกนแห่งท่องเที่ยวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น/ หัวหน้าด้านยาเสพติด บช.น. จึงส่งสายสืบแฝงตัว จนทราบว่ามีการนัดหมายเพื่อมั่วสุมดังกล่าว

กระทั่งวันที่ 2 พ.ย. 68 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. , พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งเปิดปฏิบัติการ นำกำลังเจ้าหน้าที่ ศอ.ปส.ตร. , ศอ.ปส.บช.น. , บก.สส.บช.น. , บก.น.5 และ บช.ปส. กว่า 50 นาย พบกลุ่ม ชาย LGBTQ+ 29 คน ชาวไทย 28 คน ชาวฟิลิปปินส์ 1 คน เมื่อบุกเข้าไปตามห้องเล็กพบการมั่วสุมทางเพศกันอยู่หลายห้อง และพบของจำนวนมาก เช่น ไอซ์ ยาบ้า เคตามีน ยาอี (แบบน้ำ) ยาอี เข็มฉีดยาจำนวนมาก ไวอากร้า ยาป๊อปเปอร์ (ยาลดเจ็บทวารหนัก) อุปกรณ์การเสพ ถุงยางอนามัยใช้แล้ว เจลหล่อลื่น จึงทำการควบคุมตัวไว้ทั้งหมด

จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ครอบครองยาเสพติดจำนวน 3 คน และตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด จำนวน 4 คน นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนอีก 25 ราย พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี ได้ดำเนินการจัดทำประวัติและอยู่ระหว่างการซักถามขยายผลเพิ่มเติม
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ขอเตือนภัยเรื่องของยาป๊อปเปอร์ (Popper) หรือเอมิลไนไตรท์ เดิมทีเป็นสารที่ใช้ในทางการแพทย์ แต่ปัจจุบันกลับถูกในมาใช้ในทางที่ผิด โดยกลุ่มชายรักชายมักจะใช้เพื่อลดอาการเจ็บปวดจากการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิด เพราะการใช้สารระเหยดังกล่าวต้องใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น และจากการขยายผลทราบว่ากลุ่มผู้จัดกิจกรรมมั่วสุมยาเสพติดครั้งนี้คือกลุ่มเดียวกับที่เคยถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 67 พื้นที่ สน.ทองหล่อ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้สำนึกในการกระทำ พร้อมขยายผลให้ถึงที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นประชาชน ตามนโยบายของ ผบ.ตร.

