วันที่ 22 ตุลาคม 2568 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยถึงผลการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภาโลก IPU ครั้งที่ 151 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งตนได้เข้าร่วมการประชุมของคณะกรรมาธิการการส่งเสริมการเคารพต่อกฎหมายระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรม IHL ในฐานะคณะกรรมาธิการ ซึ่งได้รายงานต่อที่ประชุม 4 เรื่องสำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยระบุว่า
เรื่องแรกเป็นข้อห่วงใยจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่พบว่ากัมพูชาได้ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ในการวางทุ่นระเบิดใหม่ จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมรับทราบและห่วงใยต่อการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นเรื่องที่ร้ายแรง และทุกประเทศที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกต้องเคารพที่จะไม่ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและต้องร่วมมือกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมถึงการยึดมั่นที่จะปฏิบัติตามกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
เรื่องที่สอง นายกัณวีร์ เปิดเผยว่า ตนได้ยกประเด็นวิฤตมนุษยธรรมที่เกิดขึ้นในอนุภูมิภาคอาเซียน 5 ประเทศ คือ ไทย เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม และ ลาว กรณีการกดปราบข้ามชาติ (Transnational Repression—TNR) ซึ่งเป็นปัญหาด้านมนุษยธรรม เป็นภัยของอนุภูมิภาค ที่ขยายไปทั่วโลก เรื่องนี้เป็นที่น่าเป็นห่วงว่ามีความร่วมมือในการประหัตประหารส่งผู้ลี้ภัยและกลุ่มเปราะบางกลับไปเผชิญการประหัตประหารที่ซ้ำซ้อนจากความร่วมมือระหว่างรัฐ
นายกัณวีร์ เปิดเผยว่า ตนยังได้รายงานสถานการณ์การปฏิบัติตามกฏหมายมนุษยธรรมในประเทศไทย 2 เรื่องสำคัญในกรณีรัฐบาลไทยมีมติคณะรัฐมนตรีที่ให้สถานะทางบุคคลกับกลุ่มชาติพันธุ์ ต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จำนวน 483,626 คน ได้รับสถานะมีถิ่นที่อยู่ถาวร และได้รับสัญชาติ ซึ่งเป็นการยุติการไร้รัฐไร้สัญชาติ ที่ได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลก และได้รับคำชื่นชมจากคณะกรรมาธิการ IHL ของ IPU
“การยุติคนไร้รัฐไร้สัญชาติ ที่รัฐบาลไทยได้ดำเนินการไปแล้วนั้น เป็นสัญญาประชาคมโลกในการแก้ไขวิกฤตมนุษยธรรม และเป็นเรื่องที่เวทีโลกกำลังช่วยกันยุติปัญหา โดยครั้งหน้าจะมีการไปคุยถึงเรื่องนี้ที่ตุรกี”
นายกัณวีร์ เปิดเผยด้วยว่าที่ประชุม IHL ยังชื่นชมนโยบายของไทยที่ให้สิทธิแรงงานแก่ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมา ที่อยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว 9 แห่งในไทยกว่า 41 ปี จำนวนกว่า 8.1 หมื่นคนให้ได้สิทธิการทำงาน ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนให้ผู้ลี้ภัยที่อยู่มายาวนานเป็นอันดับ 2 ของโลก ได้มีสิทธิแรงงาน ยืนได้ด้วยขาของตัวเอง และเป็นการคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับมนุษย์อีกด้วย
“ผมได้รับมอบหมายจาก กมธ.IHL ให้นำเสนอข้อสรุปจากการประชุมต่อที่ประชุมใหญ่ IPU ในวันพรุ่งนี้ในวันปิดประชุม 23 ต.ค.ด้วย”
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำประเทศไทยมีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติว่าด้วยกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ หรือ National IHL Committee เมื่อหลายปีที่แล้ว แต่ตนยังไม่เคยสังเกตเห็นการทำงานอย่างต่อเนื่องนัก จึงเตรียมจะสอบถามผู้เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมขับเคลื่อนและแสดงท่าทีของไทยในเวทีโลกต่อไปด้วย
