หน้าแรกการเมือง"กัณวีร์" เสนอ "อนุทิน" ตั้งรัฐมนตรีมาดูปัญหาชายแดนใต้ สายตรงถึงนายกฯ ย้ำเวลา 4 เดือนต้องตั้งไข่สันติภาพให้ได้ ต้องกลัดกระดุมเม็ดแรกใหม่

“กัณวีร์” เสนอ “อนุทิน” ตั้งรัฐมนตรีมาดูปัญหาชายแดนใต้ สายตรงถึงนายกฯ ย้ำเวลา 4 เดือนต้องตั้งไข่สันติภาพให้ได้ ต้องกลัดกระดุมเม็ดแรกใหม่

วันที่ 11 ต.ค.69 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงมหาดไทย โดยระบุว่า เห็นนายกฯ เดินทางลงจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงขอฝากตามเรื่องการตั้งไข่กระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้

“4 เดือนนี้หากท่านกลัดกระดุมเม็ดแรกที่ถูกต้อง ท่านจะทำให้เห็นถึงความแตกต่างจากการกลัดกระดุมที่ผิดเมื่อปี 2547 ที่ทำให้ผลาญเงินกว่า 5 แสนล้านบาท แต่กระบวนการสันติภาพกลับเป็นหมัน”

นายกัณวีร์ ระบุว่า ความรุนแรงของสถานการณ์มีความต่อเนื่อง ตั้งแต่ปล้นร้านทอง เหตุระเบิดหน้าศูนย์เยาวชนยะลา และเหตุระเบิดที่ตู้ ATM เมื่อ 1 ต.ค. 68 คือความท้าทายรัฐบาลชุดใหม่ที่มีเวลาเพียง 4 เดือน เวลาของรัฐบาลอนุทิน เป็นไปได้ทั้งระเบิดเวลาที่จะทำให้สถานการณ์ขยายตัวขึ้นอย่างกู่ไม่กลับ และหรือการตั้งไข่กระบวนการสันติภาพอย่างถูกต้อง ที่เหมือนกับการทำถนนเพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนา

“ท่านจะกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด หากท่านนิ่งเฉยและปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามสิ่งที่เป็นมาเป็นเวลา 21 ปีที่ผ่านมา !! หากท่านยังปล่อยให้มีการใช้อำนาจแฝงผ่านกลไกอย่าง กอ.รมน. และ ศอ.บต. ที่มีทั้ง อำนาจ หน้าที่ งบประมาณและการตัดสินใจโดยใช้ชื่อท่าน ในนามนายกฯ คุ้มหลังทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จ ขาดการตรวจสอบถ่วงดุล จากภาคส่วนอื่นๆ เพราะทั้งสององค์กรนี้ขึ้นตรงกับท่านเอง”

นายกัณวีร์ ระบุว่า 4 เดือนนี้ ขอให้นายกฯวางแผนการเปลี่ยนผ่านเสีย ให้องค์กรทั้ง 2 นี้ มีอำนาจหน้าที่เพียงแค่การอำนวยการ และส่งข้อมูลมาถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อท่านเองในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารจะตัดสินใจ ไม่ใช่ ผอ.รมน.ภาค 4 หรือ เลขาธิการ ศอ.บต. หากท่านไม่มั่นใจ วางตำแหน่ง รัฐมนตรีฯ สักคนนึง ที่เรามีอยู่อย่างมากมาย ให้ไปดูแลจังหวัดชายแดนภาคใต้เสีย ให้คนผู้นั้นที่มีความรู้ความเข้าใจอุทิศตนเพื่อนำมาซึ่งสันติภาพ และยิงตรงท่านในฐานะนายกรัฐมนตรี

“ลองพิจารณาดูถึงการเปลี่ยนยุทธศาสตร์การโจมตีเป็นเป้าทางเศรษฐกิจ ทั้งร้านทอง และตู้ ATM ทำไมถึงเปลี่ยนเป้าหมาย แต่ก็ยังคงความประสงค์การก่อความไม่สงบอยู่ หากให้ผมเดาโดยไม่ต้องไปรับฟัง briefing จากหน่วยงานความมั่นคงที่มารายงานท่านวันนี้ คงเป็นว่ากลุ่มก่อความไม่สงบได้ใช้ความรุนแรง ผสมผสานกับการทำธุรกิจอาวุธและเงินทุน จึงทำให้เห็นถึงการต่อสู้เชิงอุดมการณ์มาเป็น ปฏิบัติการอิงเงินทุน ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะใช้รายได้จากปล้นเป็นทุนหมุนเวียนในกิจกรรมความรุนแรงต่อไป และต้องการหาเงินเพิ่มเพื่อระดมสรรพกำลังให้มากขึ้น สุดท้ายคาดเดาได้ว่าจะก่อเหตุใหญ่ต่อไปในไม่ช้า”

นายกัณวีร์ ถามย้ำว่า ใช่หรือไม่ครับท่านนายกฯ และหากเป็นจริงและคนอย่างตนสามารถวิเคราะห์ได้โดยไม่ต้องอยู่ในพื้นที่ตลอดเวลา ท่านคิดว่าอย่างไร ต้องกลับไปใช้สมมุติฐานแรกของตน ที่ขอให้ท่านแต่งตั้งคนในตำแหน่งรัฐมนตรี ดูแลบริหารจัดการงานเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมด ขึ้นตรงกับท่าน และต้องประจำอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เหตุผลความจำเป็นที่ต้องอยู่ในพื้นที่ตลอด คือ เป็นนักการเมืองยังไงต้องอยู่กับคนตลอดเวลา ต้องรับฟังคนเสมอ ต้องรับฟังคนทุกภาคส่วน และที่สำคัญท่านนายกฯ ต้องเข้าใจว่ารากเหง้าแห่งปัญหาของ จชต. คือการปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก และอัตลักษณ์ตัวตนของพี่น้องประชาชนถูกปิดกั้นมากจนเกินไป กฎหมายพิเศษต่างๆ ทั้งกฏอัยการศึก พรบ.ความมั่นคงฯ และ พรก.ฉุกเฉินฯ ยิ่งย้ำเตือนจุดบอดนี้ ดังนั้น ท่าน (นายกรัฐมนตรี) ต้องพิจารณาหาคนของท่านรั้งตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อดูแล จชต. ที่ต้องเป็นนักการเมือง ไม่ใช่ข้าราชการประจำ เป็นการกลัดกระดุมเม็ดแรกที่จะพาเรือของท่านล่องนาวาผ่านไปใน 4 เดือนนี้อย่างมีประสิทธิภาพในการตั้งไข่สู่กระบวนการสันติภาพ

“ท่านได้แต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยฝ่ายไทยแล้วถือว่าท่านทำงานเร็วมาก ๆ ต้องขอชื่นชมครับ แต่ทีมงานยังไม่เห็นรายชื่อ ต้องขอดูนิดนะครับท่านครับเพราะมีประชาชนรออยู่ นี่หากท่านสามารถสร้างคณะพูดคุยฝ่ายไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่ 4 เดือนที่ท่านมาอยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับ 2 ปีกว่าที่ผ่านมา และรวมกับการกลัดกระดุมเม็ดแรกที่ถูกจุด วางแนวทางที่เหมาะสมต่อการแก้ไขปัญหาให้ได้ ให้อำนาจรัฐมนตรีคนนี้เต็มในการบริหารจัดการ และที่สำคัญคน ๆ นี้ต้องมีความเข้าใจและความรู้บริบทสถานการณ์ จชต. ให้ดี มีคุณธรรมและได้รับการยอมรับจากองคาพยพของคนในพื้นที่ พร้อมปรับตัวรับฟังคนพื้นที่ให้มากด้วยนะครับ”

นายกัณวีร์ กล่าวว่า อย่าส่งคนที่จะทำตัวเป็น “ผู้มากบารมี” ให้คนวิ่งตาม แล้วลงไปสร้างฐานเสียงและคะแนนให้ตนเอง จงหาคนที่อยากแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องจริงๆ และพร้อมรอการตรวจสอบตลอดเวลา แล้วท่านนายกฯ หากทำได้จะรอดพ้นจากการถูกตรวจสอบ แต่ในทางกลับกันท่านจะกลัดกระดุมเม็ดแรกที่ถูกต้องและพร้อมให้คนมาสานต่อต่อไปในรัฐบาลชุดหน้า

“เราสูญเสียมากพอแล้วกับเงินภาษีพี่น้องประชาชนมากกว่า 5 แสนล้านบาทที่สูญเสียไปเหมือนการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เราสูญเสียมากพอแล้วกับชีวิตหลายชีวิตของพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร เพราะทุกคนคือมนุษย์เหมือนกัน เราสูญเสียมากแล้วเวลากว่า 21 ปี ที่หายไปเหมือนเราอยู่ในสูญญากาศที่ไม่มีการพัฒนาใดๆ สิ่งที่เราต้องการคือ กระดุมเม็ดแรกที่ถูกต้องครับ” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img