ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองปราบอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) จับกุมชายวัย 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 6 หมาย หลังร่วมเปิดบัญชีม้าในนามบริษัท หลอกนักลงทุนผ่านแอป “Nicshare” เสียหายกว่า 100 ล้านบาท พบพัวพันขบวนการฟอกเงินข้ามชาติหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา นำโดย พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. ร่วมกับชุดจับกุมภายใต้การควบคุมของ พ.ต.ท.หญิง ปวีณวรรณ พลหาญ จับกุม นายวิษณุฯ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลรวม 6 หมาย ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และร่วมสมคบฟอกเงินในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้ต้องหาบริเวณอาคารที่พักย่านถนนพระราม 4 ซอยปลูกจิตต์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ หลังสืบทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลงทุนต่างประเทศ ผ่านแอปพลิเคชัน “Nicshare” โดยอ้างผลตอบแทนสูง จูงใจให้ผู้เสียหายชาวไทยร่วมลงทุนจนสูญเงินรวมกว่า 100 ล้านบาท
การสืบสวนพบว่า นายวิษณุฯ มีบทบาทเป็นผู้เปิดบัญชีม้าในรูปแบบนิติบุคคล เพื่อรับ-โอนเงินจากเหยื่อ ก่อนส่งต่อให้เครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ ซึ่งมีเงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาท โดยเครือข่ายหลักถูกตำรวจทลายไปก่อนหน้านี้แล้ว
จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ถูกหญิงรายหนึ่ง (ถูกจับก่อนหน้า) ชักชวนให้เปิดบัญชีธนาคาร อ้างว่าจะใช้ทำธุรกิจออนไลน์ แต่ภายหลังกลับติดต่อไม่ได้ จนถูกออกหมายจับและติดตามจับกุมได้ในที่สุด
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกเปิดบัญชี หรือให้โอนเงินโดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ย้ำ “ตำรวจจริงไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาผ่านโทรศัพท์” และหากพบพฤติการณ์น่าสงสัยควรตรวจสอบก่อนทุกครั้ง
ทั้งนี้ การเปิดบัญชีให้ผู้อื่นใช้ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตำรวจยังแนะนักลงทุนควรตรวจสอบบริษัทหรือตัวแทนที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ผ่านเว็บไซต์ “SEC Check First” ก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อป้องกันตกเป็นเหยื่อของขบวนการมิจฉาชีพข้ามชาติ
“การเผยแพร่ข่าวนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ สร้างการรับรู้และตระหนักถึงภัยทางเทคโนโลยี ทั้งนี้ ผู้ต้องหายังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด”
