เชื่อว่าคอการเมืองที่ติดตามเกี่ยวกับโครงสร้างอำนาจทางการเมือง พอทำนายได้ว่าแม้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน โครงสร้างทางอำนาจยังดำรงอยู่เหมือนเดิม เพียงตัวละครถูกสับเปลี่ยนออกไปตามจังหวะเวลาว่าใครจะสนองตอบในการักษาอำนาจได้ดีกว่ากันแต่กลุ่มตัวละครที่ไม่เคยเปลี่ยนแถมยังโลดเล่นอยู่บนถนนการเมืองได้อย่างยาวนานสืบทอดอำนาจเสมือนมรดกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น นั่นคือการเมืองบ้านใหญ่ที่คุมพื้นที่แต่ละจังหวัด

ในบางยุคบ้านใหญ่จะถูกกลุ่มผู้กุมอำนาจไม่อยากให้แสดงบทบาทเยอะเพราะเกรงว่ารัศมีของแกนนำบ้านใหญ่จะบดบัง ประชาชนทั่วไปจะหมดศรัทธา จะใช้อำนาจทางกฎหมายจัดการ อย่างในอดีตที่ผ่านมายุคที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(รสช.)นำโดย พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เรืองอำนาจมีนโยบายจัดระเบียบบรรดาเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลในวางการต่างๆรวมถึงกดดันไม่ให้ลงสนามเลือกตั้งส.ส. มีการต่อสายถึงบรรดาเจ้าพ่อทั้งหลายให้หลบฉากหรือลดบทบาทไป
ยุคนี้มีเจ้าพ่อหลายคนทั้งภาคตะวันออก ตะวันตก หรือภาคกลางถูก รสช.สั่งให้ลดบทบาท ส่วนใหญ่ให้ความร่วมเป็นอย่างดี บางคนถึงขั้นลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ มีเพียงเจ้าพ่อเมืองหลวงที่ยังกระด้างกระเดื่องพร้อมประกาศว่าถ้ามีเลือกตั้งจะลงสมัคร ส.ส.ที่บ้านเกิดและมีแนวโน้มที่จะได้รับเลือกสูง สุดท้ายถูกส่งไปเกิดใหม่
ช่วงที่ รสช.ครองอำนาจ จัดว่าเป็นยุคบรรดาผู้มีอิทธิพลและพวกที่ตั้งตัวเป็นเจ้าพ่อค่อนข้างจะอยู่ในภาวะที่เก็บเนื้อเก็บตัว แต่สืบเนื่องจากแกนนำรสช.ยังต้องการสืบทอดอำนาจผ่านการเลือกตั้ง บทบาทของบ้านใหญ่กลับถูกดึงให้มาผงาดอีกครั้งในลักษณะส่งตัวแทนหรือส่งทายาทลงสนาม
ต่อมาในยุคของนายทักษิณ ชินวัตร การเมืองพลิกโฉมหนัก พรรคไทยรักไทยของนายทักษิณ ชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย 377 เสียง กระทั่งนำไปสู่การรัฐประหารพร้อมยุบพรรคไทยรักไทย เผด็จการทหารบริหารประเทศเพียง 1 ปี จัดเลือกตั้งใหม่ แต่พ่ายให้กับพรรคนายทักษิณ
พรรคนายทักษิณจัดตั้งรัฐบาล เป็นได้แค่รัฐบาลเปิดง่อยบริหารปะเทศไม่ได้ อำนาจเปลี่ยนไปอยู่ในมือของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บริหารจนใกล้ครบวาระยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ผลปรากฏว่าพรรคนายทักษิณ ชนะเลือกตั้ง ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารไปสักระยะ ถูกเผด็จทหารนำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจพร้อมวางแผนสืบทอดอำนาจให้นานที่สุดและทำทุกวิถีทางไม่ให้เครือข่ายนายทักษิณกลับมาผงาดอีก
กลุ่มผู้กุมอำนาจจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้มาซึ่งชัยชนะในการเลือกตั้ง จึงเลือกใช้บริการจากทุกลุ่ม โดยเฉพาะบรรดาบ้านใหญ่ในจังหวัดต่างๆ จนกลายเป็นยุคที่กลุ่มธุรกิจสีเทาเข้ามามีบทบาทค่อนข้างสูงในรูปแบบของการบริจาคทุนผ่านพรรคการเมือง แม้แต่นายบ่อนสามารถเป็นแกนนำตั้งพรรคการเมืองสนับสนุฯ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างเปิดเผย ซึ่งแตกต่างกับยุครสช.ที่นายบ่อนและผู้มีอิทธิพลต้องหลบฉากไป
จึงอนุมานได้ว่าในยุค คสช.เรืองอำนาจ กลุ่มธุรกิจสีเทาไม่ว่าจะเป็นพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ค่อนข้างเฟื่องฟู จะมีปราบปรามจับกุมบ้าง จะเป็นแก๊งที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับขั้วอำนาจ หรือแม้แต่ สส.ถูกจับกุมเพราะมีเครือข่ายพนันออนไลน์ยังหลุดรอด ชูคออยู่ในสภาฯแบบสบายๆ
ดังนั้นคงไม่ต้องอธิบายให้มากความว่ากุล่มบ้านใหญ่จะมีบทบาทในการคุมอำนาจมากแค่ไหน เพียงตรวจดูรายชื่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) สส.และ สว. จะพบว่าล้วนแต่เชื่อมโยงกัน อย่างครม.ชุดล่าสุดมีทั้งพี่และน้อง พ่อขาดคุณสมบัติ ส่งลูกรับตำแหน่งแทน น้องของบ้านใหญ่ขาดคุณสมบัติส่งลูกชายรับตำแหน่งระบบพรรคการเมืองแตกละเอียด เพราะต่างแย่งชิงตำแหน่งเสนาบดี โดยมีได้สนใจว่ามีความสามารถเพียงพอหรือไม่ ขอเพียงมี สส.อยู่ในมือก็เพียงพอแล้ว
หากสืบค้นประวัติ รัฐมนตรี สส.และ สว. บางคนและบางกลุ่ม จะพบว่าล้วนเชื่อมโยงกับบ้านใหญ่ทั้งสิ้น ยิ่งสาวลึกลงไปจะพบว่าแกนนำบ้านใหญ่แต่ละหลังล้วนเดินบนเส้นทางสีเทามาแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด เอี่ยวแรงงานเถื่อน พนันออนไลน์ เอี่ยวกลุ่มจีนเทา เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงธุรกิจกาสิโนตามแนวชายแดนทั้งพม่า ลาวและกัมพูชา และหลายคนต้องคดีอาชญากรรม แต่หลุดรอดมาได้แบบที่ญาติเหยื่อนั่งมองแบบตาปริบๆ
แต่นักการเมืองพวกนี้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะมีทั้งอำนาจและเงินทอง แถมมีคดีความไม่ว่าจะเป็นคดีทุจริตหรือฮั้วประมูลหรือรุกที่ดินรัฐ เป็นต้น ไม่มีหน่วยงานรัฐหรือองค์กรอิสระไหนเอาผิดได้ เข้าทำนองทำชั่วได้ดีซึ่งบริบทเหล่านี้กลุ่มคนรุ่นใหม่บางกลุ่มได้ซึมซับพร้อมยึดถือเป็นแนวทางเดินตามเรียบร้อยแล้ว
จากที่”จอมมารน้อย”ได้เจอและพูดคุยด้วย พวกเขาบอกว่าได้ศึกษาเส้นทางทำมาหากินและพฤติกรรม ของพวกนักการเมืองที่สังกัดบ้านใหญ่รวมถึงแกนนำบ้านใหญ่ สามารถหาได้จากสื่อโซเซียล ทำให้เห็นช่องทางทำธุรกิจสีเทาได้ไม่ยาก
ยิ่งได้อิงกับบ้านใหญ่หรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้ง ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง เส้นทางจะเปิดโล่งเพียงแค่นำปัจจัยที่ได้จากธุรกิจมืดไปกำนัล สร้างฐานะได้อย่างรวดเร็ว ถ้ามีช่องทางลงสู่สนามเลือกตั้งต้องรีบคว้าไว้ เพราะจะเป็นหนทางไต่เต้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีได้แบบง่ายๆเพียงแค่มีเงินในกระเป๋าและสามารถเลี้ยงดู สส.ได้อย่างน้อยสัก 7-8 คน ตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่แค่เอื้อม
ก่อนที่จะจบการสนทนาคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ทิ้งแบบไม่ใยดีที่ผู้นำประเทศหรือรัฐมนตรีหรือข้าราชการชั้นใหญ่หรือพ่อแม่ปู่ย่าตายายสั่งสอนว่าทำดีได้ดี นั้นไม่มีอยู่จริง แต่ทำชั่วได้ดีมีอยู่จริงแถมมีตำแหน่งเสนาบดี สส.และสว.ตอบแทนให้อีกด้วย !!!


