นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ วานนี้ 30 กันยายน 2568 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติ ต่ออายุลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีม่วง เนื่องจากเดิม ที่มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 มาปรับระยะเวลา จากมติ ครม. เก่า ซึ่งเดิมทีรถไฟฟ้า 2 สายนี้ จะเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 แต่เพราะมติ ครม. ฉบับดังกล่าว ได้ปรับเวลาลดลงมาเป็น 30 กันยายน 2568 จึงเป็นสาเหตุให้ ครม. ต้องออกมติขยายเวลา เนื่องจากเป็นความไม่เรียบร้อยของการทำงานในรัฐบาลที่แล้ว
ทั้งนี้ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เคยประกาศแล้วว่าวันที่ 1 ตุลาคม 2568 รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เขาไม่สามารถทำได้ทัน เพราะติดข้อกฎหมาย ก็ควรจะมาแก้ให้เรียบร้อย รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล เห็นว่าหากรัฐบาลเพิกเฉย คนที่เสียประโยชน์ก็คือประชาชน จึงขยายระยะเวลาไปอีก 2 เดือน ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 คือการไปยกเลิก มติ ครม. เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังมีความกังวลว่าการเก็บจะสะท้อนค่าใช้จ่ายที่แท้จริงหรือไม่ เพราะสิ่งที่รัฐบาลอยากจะทำให้เกิดขึ้น คือ 1. ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริง 2. ค่าตั๋วโดยสารมีเสถียรภาพ คือต้องไม่เป็นภาระมากเกินไป และหากประชาขนได้ประโยชน์ นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องการเห็นมากที่สุด ดังนั้นนายกรัฐมนตรีจึงได้ให้แนวทางกับกระทรวงคมนาคม ไปศึกษาการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ไม่ใช้การตัดสินใจ เพราะใคร หรือ พรรคการเมือง หรือรัฐบาลใด แต่ตัดสินใจบนพื้นฐานของประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ดังนั้น รัฐบาลต่างหากที่เข้ามาแก้ปัญหา มาเก็บกวาดความไม่เรียบร้อยของรัฐบาลที่แล้ว
ส่วนกรณีที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเดิม ออกมาเคลมว่าเป็นผลงาน นายสิริพงศ์ ระบุว่า เข้าใจได้ เพราะเราทำ เขาก็เคลม เราไม่ทำเขาก็ตำหนิ แต่เราไม่สามารถเอาประชาชน มาเป็นตัวประกัน จะเคลมก็เคลมไป แต่ที่นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจทำ เพราะเป็นห่วงประชาชน ประโยชน์ของประชาชนมาก่อนประโยชน์พรรคการเมือง ส่วนใครจะมีความสุขกับการเคลม ก็แล้วแต่

