เมืองทองธานี, วันที่ 26 กันยายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand–China Cooperation Expo 2025” โดยมี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย คณะกลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย–จีนอย่างยั่งยืน (TCTM) ได้เเก่ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน นายหลิว เฉวียนเหลย นายกสมาคมการค้าวิสาหกิจจีนในไทย รวมทั้งนักลงทุนและผู้ประกอบการชั้นนำของไทยและจีนเข้าร่วม
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ซึ่งตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันสร้างรากฐานความร่วมมือที่มั่นคงในทุกมิติ ทั้งด้านการค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่ารากฐานนี้จะนำไปสู่โอกาสใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

โดยจีนได้พิสูจน์ให้โลกเห็นถึงพลังแห่งการพัฒนา โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจดิจิทัล และการเป็นผู้นำในพลังงานสะอาด ขณะเดียวกันประเทศไทยก็กำลังยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและระบบเศรษฐกิจเพื่อตอบโจทย์การเติบโตในอนาคต การบรรจบกันของศักยภาพทั้งสองประเทศจึงเป็นโอกาสทองที่จะร่วมกันสร้างความเจริญรุ่งเรืองในหลายมิติ
นายอนุทินได้เสนอทิศทางความร่วมมือไทย–จีนในอนาคต ซึ่งครอบคลุม 5 มิติสำคัญ ได้แก่ 1. การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ เช่น การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน 2. เศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาด 3. เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล โดยจะร่วมกันสร้างแพลตฟอร์มเศรษฐกิจดิจิทัล 4. การเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร และ 5. การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ทั้งการศึกษา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยมุ่งมั่นจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และนวัตกรรมของภูมิภาค โดยจะร่วมมือกับจีนอย่างใกล้ชิด พร้อมเดินหน้าลดอุปสรรค ปรับปรุงกฎระเบียบ และเพิ่มความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ภาคเอกชนทั้งสองประเทศเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง โดยประเทศไทยจะพิสูจน์ว่า เราไม่ได้เป็นเพียงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ แต่จะเป็นประตูบานสำคัญ ที่จะเปิดไปสู่ความร่วมมืออื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ เพื่อให้มิตรภาพที่มีต่อกันมายาวนานระหว่างไทยและจีน เป็นเหมือน “สปริงบอร์ด” ที่จะนำสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติต่อไป

ทั้งนี้นายอนุทินได้ชื่นชมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย–จีน และสมาคมการค้าวิสาหกิจจีน ที่ร่วมกันจัดงานครั้งนี้ โดยเชื่อมั่นว่า Thailand–China Cooperation Expo 2025 จะไม่เพียงเป็นเวทีแสดงศักยภาพ แต่ยังเป็นหมุดหมายสำคัญของอนาคตที่ไทยและจีนจะร่วมกันสร้างบนพื้นฐาน แห่งความไว้เนื้อเชื่อใจ ความร่วมมือ และวิสัยทัศน์ร่วมกัน
สำหรับงานแสดงสินค้า Thailand–China Cooperation Expo 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 28 กันยายน 2568 เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ อาคารชาแลนเจอร์ ฮอลล์ 2–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “50 ปี ความสัมพันธ์ไทย–จีน : ก้าวสู่ความรุ่งเรืองร่วมกัน” โดยมีผู้ประกอบการ นักลงทุน ผู้นำเข้า–ส่งออก ผู้ค้า และผู้นำธุรกิจจากไทย จีน และนานาประเทศ เข้าร่วม เพื่อสร้างการเชื่อมโยงและขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็น Global Supply Chain Hub ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม ทั้งเทคโนโลยีและนวัตกรรม การค้าและการลงทุน พลังงานสีเขียวและเกษตรเพื่อความยั่งยืน ยานยนต์และ EV โลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม

