หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมประธานศาลฎีกา มอบรางวัล "ศาลดีเด่นประจำปี" พร้อมรางวัลใหม่ คิดค้นนวัตกรรม การส่งคำคู่ความและการให้บริการประชาชน มุ่งคุ้มครองข้อมูล PDPA

ประธานศาลฎีกา มอบรางวัล “ศาลดีเด่นประจำปี” พร้อมรางวัลใหม่ คิดค้นนวัตกรรม การส่งคำคู่ความและการให้บริการประชาชน มุ่งคุ้มครองข้อมูล PDPA

ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 เวลา 14.45 น. นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัลโครงการจัดประกวดคัดเลือกศาลดีเด่น เพื่อสานต่อ เสริมสร้าง และส่งต่ออย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

ประธานศาลอุทธรณ์ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เลขาธิการสำนักประธานศาลฎีกา เลขาธิการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พร้อมร่วมในพิธี โดยหัวหน้าส่วนราชการศาลยุติธรรมและบุคลากรในสังกัดต่างๆ ร่วมรับชมและติดตามพิธีมอบรางวัลอย่างใกล้ชิด ผ่านระบบ Zoom Meeting ด้วย

โดยรางวัลศาลดีเด่น ได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ภายใต้ชื่อ “ศาลดีเด่น เพื่อสานต่อ เสริมสร้าง และส่งต่ออย่างยั่งยืน” ซึ่งแต่ละปีนี้หลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกจะมุ่งเน้นเป้าหมายการพัฒนาศักยภาพภายใต้ความเหมาะสมของกรอบแนวทางที่สำนักงานศาลยุติธรรมพร้อมขับเคลื่อนนโยบายประธานศาลฎีกาอย่างเป็นรูปธรรม โดยปีแรก 2566 พิจารณาคัดเลือกให้คะแนนแบบ 60/40 ด้านการบริการเป็นอันดับต้น ตามมาด้วยการบริหารจัดการคดี ในปี 2567 พิจารณาให้คะแนนเท่ากัน 50/50 ทั้งด้านการบริการและการบริหารจัดการคดี ขณะที่ปี 2568 นี้ ให้สัดส่วน 80/20 โดยคะแนนด้านบริหารจัดการทั่วไปและการให้บริการประชาชนจะสูงกว่า ด้านบริหารจัดการคดี 

สำหรับศาลที่ได้รับรางวัลศาลดีเด่น ประจำปี 2568

– กลุ่มศาลชั้นต้นที่ไม่สังกัดสำนักงานอธิบดี ผู้พิพากษาภาค ได้แก่ ศาลอาญาพระโขนง, ศาลแรงงานภาค 8, ศาลแพ่งกรุงเทพใต้, ศาลอาญาธนบุรี 
– กลุ่มศาลจังหวัดที่ไม่มีอำนาจพิจารณาคดีแขวง ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ศาลจังหวัดตรัง, ศาลจังหวัดทุ่งสง, ศาลจังหวัดลพบุรี, ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี
– กลุ่มศาลจังหวัดที่มีอำนาจพิจารณาคดีแขวง ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ศาลจังหวัดหนองคาย, ศาลจังหวัดกำแพงเพชร, ศาลจังหวัดนครนายก, ศาลจังหวัดศรีสะเกษ
– กลุ่มศาลแขวง ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ศาลแขวงพัทยา, ศาลแขวงทุ่งสง, ศาลแขวงเชียงดาว, ศาลแขวงตรัง  
– กลุ่มศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร, ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี, ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปัตตานี, ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

ทั้งนี้ ยังมีรางวัลศาลที่มีผลการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดีเด่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่กำหนดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนแนวนโยบายประธานศาลฎีกาสานต่อการระงับข้อพิพาททางเลือก โดยคำนึงถึงความเหมาะสมตามสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงบริบทของแต่ละศาลด้วย โดยกลุ่มศาลสูง 3 รางวัล ได้แก่ ศาลอุทธรณ์ภาค 8, ศาลอุทธรณ์ภาค 4, ศาลอุทธรณ์ภาค 7 

– รางวัลกลุ่มสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 1-9 ได้แก่ สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 1, สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6, สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 
– รางวัลของกลุ่มศาลแพ่งชั้นต้นในกรุงเทพฯ ประกอบด้วย กลุ่มศาลแพ่งที่ไม่รับพิจารณาคดีแขวง ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และกลุ่มศาลแพ่งที่รับพิจารณาคดีแขวง ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ศาลแพ่งตลิ่งชัน  
– รางวัลของกลุ่มศาลอาญาชั้นต้นในกรุงเทพฯ ประกอบด้วย กลุ่มศาลอาญาที่ไม่รับพิจารณาคดีแขวง ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ และกลุ่มศาลอาญาที่รับพิจารณาคดีแขวง ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ศาลอาญาพระโขนง
– รางวัลกลุ่มศาลพิเศษ-ศาลชำนัญพิเศษ ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง, ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง, ศาลแพ่งมีนบุรีและศาลอาญามีนบุรีแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว
– รางวัลกลุ่มศาลแรงงาน ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ศาลแรงงานภาค 2, ศาลแรงงานภาค 3, ศาลแรงงานภาค 9
– รางวัลในกลุ่มของศาลสังกัดสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 1-9 ประกอบด้วย กลุ่มศาลจังหวัดที่ไม่มีอำนาจพิจารณาคดีแขวง ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ศาลจังหวัดขอนแก่น, ศาลจังหวัดนครราชสีมา, ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กลุ่มศาลจังหวัดที่มีอำนาจพิจารณาคดีแขวง ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ศาลจังหวัดนครนายก, ศาลจังหวัดศรีสะเกษ, ศาลจังหวัดยโสธร กลุ่มศาลแขวง ได้แก่ ศาลแขวงลพบุรี, ศาลแขวงนครสวรรค์, ศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา กลุ่มศาลเยาวชนและครอบครัว ลำดับที่ 1 ได้แก่ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครพนม ลำดับที่ 2 ได้แก่ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน, ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี, ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปัตตานี และลำดับที่ 3 ได้แก่ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดตราด  

นอกจากนี้ รางวัลที่ได้คัดเลือกเป็นครั้งแรกในปีนี้ ได้แก่ รางวัลนวัตกรรมการส่งคำคู่ความและการให้บริการประชาชน ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ร่วมกันคิดค้นเพื่อพัฒนาปรับปรุงกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการส่งคำคู่ความและเอกสารทางคดีให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทั้งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ความหรือ PDPA เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการประชาชนของศาลทั่วประเทศ

ทีมที่ได้รับรางวัลผลงานระดับดีเด่น ได้แก่ ทีม Nongkhai Innovation Teams จากศาลจังหวัดหนองคาย รางวัลผลงานระดับดี ได้แก่ ทีมศาลจังหวัดเดชอุดม จากศาลจังหวัดเดชอุดม รางวัลชมเชย 2 ทีม ได้แก่ ทีมแพ่งธนบุรี ส่งตรงถึงสิทธิ จากศาลแพ่งธนบุรี และทีม Rabbit team จากศาลแขวงพัทยา และตามแนวนโยบายของประธานศาลฎีกาเพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพคำพิพากษาศาลชั้นต้น ได้มีการดำเนินการคัดเลือกคำพิพากษาที่มีคุณภาพอันสะท้อนถึงการให้เหตุผลทางกฎหมายและวิเคราะห์ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายอย่างชัดเจนถูกต้องเหมาะสมสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีอีกด้วย 

ประธานศาลฎีกา กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัลอันเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นของการปฏิบัติหน้าที่ และการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกคนในศาล ความสำเร็จนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพของบุคคลและของหน่วยงาน แต่ยังเป็นแบบอย่างที่ดีอีกด้วย และศาลที่แม้จะไม่ได้รับรางวัลครั้งนี้การทำหน้าที่ของทุกท่านก็มีคุณค่ามากต่อประชาชน รางวัลเป็นเพียงเครื่องสะท้อนบางส่วน แต่ความสำเร็จที่แท้จริงคือความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อศาล ขอมอบกำลังใจให้ทุกท่านเดินหน้าสานต่อและพัฒนางานเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต           

“การอำนวยความยุติธรรมเป็นหน้าที่และพันธกิจสำคัญยิ่งของศาลยุติธรรม นโยบายสานต่อ  เสริมสร้าง ส่งต่ออย่างยั่งยืน เป็นแนวทางและหลักคิดให้การบริหารราชการศาลยุติธรรมเป็นไปโดยต่อเนื่อง รักษาสิ่งดีให้คงไว้ และพัฒนาต่อยอดให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป กระบวนการเช่นนี้เป็นรากฐานที่สำคัญอันจะทำให้ศาลยุติธรรมก้าวสู่สิ่งใหม่หรือวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง”
     

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img