รวบหนุ่มใหญ่หัวร้อนใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านผู้เสียหาย

515

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป.,พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์ , พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก, พ.ต.ท.อภิเดช อธิคมสัญญา, พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์, พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ รอง ผกก.5 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.5 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายนพดลฯ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 177/2567ลงวันที่ 29 เมษายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น ทำให้เสียทรัพย์ และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว หรือโดยไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน”สถานที่จับกุม สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2)

​พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อเดือน เม.ย. 67 ขณะที่ผู้เสียหาย ได้พักอาศัยอยู่ภายในบ้านของผู้เสียหาย จ.ปทุมธานี ได้ยินเสียงมีบุคคลใช้อาวุธปืนยิงประมาณ 5-6 นัด บริเวณบนถนนคลองบ่อน้ำเชี่ยว ห่างจากบ้านของผู้เสียหายประมาณ 50 เมตร หลังจากจากเสียงปืนหยุดลง ผู้เสียหายได้ออกมาจากบ้านเพื่อตรวจสอบดูบริเวณบ้าน พบว่าประตูกระจกบริเวณ หน้าห้องนอน มีร่องรอยกระสุนทะลุแตกได้รับความเสียหาย กระสุนเข้าไปฝังอยู่ในห้องนอน และบริเวณหน้าห้อง พบว่าเสาเหล็กมีรูกระกระสุนจำนวน 2 รู และบริเวณปฏิทินใกล้กัน มีรูกระสุน จำนวน 2 รู พบหัวกระสุนไม่ทราบขนาดตกอยู่ จำนวน 1 หัว จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มาตรวจสถานที่เกิดเหตุ และไปตรวจสอบบริเวณถนน คลองบ่อน้ำเชี่ยว ห่างจากบ้านของผู้เสียหาย ประมาณ 50 เมตร พบปลอกกระสุนไม่ทราบขนาดจำนวนหลายปลอกตกอยู่

ขณะเกิดเหตุ มีพยานเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่พยานนั่งรับประทานอาหารอยู่หน้าบ้าน ได้เห็นนายนพดลฯ ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น KR สีเขียว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาตามถนนบ่อน้ำเชี่ยว มุ่งหน้าบ้านนายกเม้ง และชะลอความเร็วรถบริเวณตรงข้ามกับบ้าน ได้ชักอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงเข้ามาที่บ้านที่เกิดเหตุ จำนวนประมาณ 10 นัด จากนั้นเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ ขับหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายนพดลฯ ผู้ก่อเหตุในคดีนี้

โดยก่อนทำการจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนหาข่าวประกอบกับได้รับแจ้งข้อมูลว่า นายนพดลฯ ปรากฏตัวอยู่ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต 2) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งได้พบชายไทยมีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับข้างต้นปรากฏตัวอยู่ที่บริเวณสถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวและได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้น จนทราบว่าคือ นายนพดลฯ เป็นบุคลตรงตามหมายจับ

จากนั้นได้แสดงหมายจับให้ดูโดยอ่านให้ฟังและให้อ่านด้วยตนเอง จนเป็นที่พอใจแล้ว รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวข้างต้นจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมหรือมอบตัวในคดีตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งให้ นายนพดลฯ ทราบว่าจะต้องถูกจับในความผิดตามหมายจับข้างต้น พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบแล้วทุกประการ จากนั้นเชิญตัวมายัง กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม เพื่อจัดทำบันทึกการจับกุม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรลาดหลุมแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาปฏิเสธ ทุกข้อกล่าวหาในคดีนี้ แต่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเคยมีปัญหาเรื่องเงินกับภรรยาเก่า เคยติดตามทวงถามอยู่หลายครั้ง และระหว่างที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ เคยใช้เท้าถีบใส่รถยนต์ที่อดีตภรรยาขับอยู่

“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชนให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้างทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”