ศอ.บต.ปลื้ม คนชายแดนใต้ “พอใจสูง” 120 วัน วาระพืชกระท่อม ยันเดินหน้าต่อ เชื่อกม.ห้ามขายใกล้สถานศึกษา-ที่สาธารณะ ช่วยแก้ได้เยอะ

882

ยะลา, วันที่ 15 ก.ย. จากกรณีที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) ขับเคลื่อน “ปฏิบัติการ 120 วัน วาระพืชกระท่อม” ในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะจากพ่อแม่ผู้ปกครอง นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการ กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง (กสม.) ศอ.บต. กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. ให้ขับเคลื่อนวาระนี้ พบว่าภาคประชาสังคมและประชาชนได้ลุกขึ้นมาปฏิเสธเรื่องยาเสพติดด้วยตนเอง ซึ่งเป็นคุณค่าที่แท้จริงของการขับเคลื่อนงานร่วมกันครั้งนี้ โดยคาดว่าในอนาคตบทบาทของภาคประชาชนจะมีมากขึ้นในการคลี่คลายปัญหา

โดยศอ.บต.ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 3,976 คน ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา (จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ต่อ “ปฏิบัติการ 120 วัน วาระพืชกระท่อม” แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจในระดับสูง โดยประชาชนส่วนใหญ่ยังคงมีความคาดหวังและต้องการให้มีการขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นในอนาคต

ผลการสำรวจพบว่าประชาชนโดยรวมมีความพึงพอใจต่อนโยบายในระดับ “มากที่สุด” และ “มาก” สูงถึง ร้อยละ 73.3 โดยแยกเป็นรายจังหวัดดังนี้: นราธิวาส (ร้อยละ 34.43), ปัตตานี (ร้อยละ 21.55), ยะลา (ร้อยละ 32.95), และสงขลา 4 อำเภอ (ร้อยละ 11.07) นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ถึง ร้อยละ 75.1 มองว่านโยบายนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนในระดับ “มากที่สุด” และ “มาก” และ ร้อยละ 74.3 ต้องการให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงการตอบรับเชิงบวกของประชาชนในพื้นที่ต่อทิศทางการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจที่พบว่าประชาชนถึง ร้อยละ 90.2 รับรู้นโยบายนี้ในระดับ “มาก” และ ร้อยละ 69.9 มองว่าการมีส่วนร่วมของภาครัฐและนอกภาครัฐอยู่ในระดับ “มาก” เช่นกัน

นายธีรวิทย์ กล่าวว่า ผลที่เกิดขึ้นถือเป็นมิติใหม่ที่สำคัญ คือการสร้าง “ความรู้สึกร่วม” ของประชาชน ซึ่งเป็นกลไกที่หาได้ยากในสังคมไทย และเชื่อว่าจะเป็นพลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างยั่งยืน โดยเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มชัดเจนขึ้นแล้ว เช่น การค้าขายพืชกระท่อมตามริมถนนที่เริ่มหายไป แม้การสำรวจจะพบว่าสถานการณ์การใช้พืชกระท่อมในชุมชนยังไม่ลดลงเท่าที่ควร แต่ ศอ.บต. คาดการณ์ว่าภายในวันที่ 30 กันยายน 2568 สถานการณ์จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากจะมีกฎหมายใหม่ที่เข้มงวดมากขึ้นมาสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้นายธีรวิทย์ ยืนยันว่าการขับเคลื่อนวาระพืชกระท่อมมีความต่อเนื่องแน่นอน โดยเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศเพื่อกำหนดข้อห้ามที่สำคัญ ทั้งห้ามขายใกล้สถานศึกษา ในรัศมีไม่เกิน 1,000 เมตร ห้ามขายแบบเร่ขาย: เช่น หาบเร่ รถเข็น หรือรถยนต์ ห้ามตั้งแผงลอยในที่สาธารณะ เช่น ตั้งโต๊ะหรือแคร่ ผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท โดยกฎหมายประกาศแล้วและจะมีผลบังคับใช้ 30 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการคลี่คลายปัญหาการใช้กระท่อมในทางที่ผิดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมต่อไป