กรมอุทยานฯ – ตำรวจ รุดสอบเหตุสิงโตรุมทำร้ายพนักงานสวนสัตว์เสียชีวิต ด้านน้องชาย ผู้ตายเปิดใจ เรียกร้องความปลอดภัยเพิ่ม

วันนี้ (10 ก.ย. 2568) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว พร้อมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมทั้งกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตส ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุสิงโตรุมทำร้ายพนักงานดูแลเสียชีวิต ภายในสวนสัตว์เปิดแห่งหนึ่งย่านกรุงเทพฯ
นายสดุดี พันธุ์ภักดี ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตส เปิดเผยว่า ปกติกรมอุทยานฯ จะเข้าตรวจสอบสวนสัตว์ดังกล่าวเป็นประจำทุกเดือน ทั้งสภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสัตว์ โดยในสวนสัตว์เปิดแห่งนี้มีสิงโตอยู่ทั้งหมด 32 ตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเหตุใดผู้เสียชีวิตจึงลงจากรถ ทั้งที่ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุลักษณะนี้ และสวนสัตว์แห่งนี้ก็ไม่เคยมีประวัติสัตว์ทำร้ายเจ้าหน้าที่มาก่อน อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์นี้จำเป็นต้องทบทวนมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติม
ด้านเพื่อนร่วมงานผู้ตายเผยว่า ผู้เสียชีวิตทำงานที่สวนสัตว์มากว่า 20 ปี ดูแลสัตว์ใหญ่ทั้งเสือและสิงโต และรู้กฎระเบียบเป็นอย่างดีว่าห้ามลงจากรถในบริเวณเลี้ยงสัตว์ แต่ไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวลงจากรถ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
น้องชาย จนท.สวนสัตว์เหยื่อสิงโตขย้ำเปิดใจ วินาทีรู้เรื่อง ขอสวนสัตว์มีมาตรการดูแลความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ อย่าโทษว่าเหตุเกิดเพราะทำผิดกฎ
ด้าน นายสุรชัย รังคะรัสมี อายุ 49 ปี น้องชายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่ถูกสิงโตทำร้ายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เปิดใจครั้งแรกกับทีมข่าวว่า ได้ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ที่ทำงานของพี่ชาย ติดต่อมาหาว่าพี่ชายถูกสัตว์ทำร้าย เบื้องต้นแจ้งว่าถูกสิงโตกัดแต่ไม่ทราบว่าเกิดได้อย่างไร จากนั้นตนจึงโทรและจะไปถามฝ่ายบุคคล ซึ่งให้ข้อมูลว่า พี่ชายของตนเองถูกสิงโตทำร้ายเสียชีวิตแล้ว ให้รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้ พี่ชายของตนเองทำงานที่สวนสัตว์แห่งนี้มานานมากกว่า 20 ปี ตัวพี่ชายอยู่ในโซนที่เลี้ยงสิงโตเลี้ยงเสือ ตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน พี่ชายตั้งใจสมัครไปทำงานในโซนดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น เท่าที่ทราบคือพี่ชายมีหน้าที่เลี้ยงดูเสือและสิงโตโดยจะขับรถคอยตระเวนดูแลสัตว์เหล่านี้เวลาที่อยู่ในพื้นที่
ส่วนรายละเอียดที่ระบุว่าพี่ชายตนเองลงไปเก็บของในขณะที่เกิดเหตุยอมรับว่ายังไม่ทราบข้อเท็จจริงเพราะไม่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เวลาพี่ชายเข้าไปทำงานก็ตั้งแต่ช่วงเช้า และไม่ได้แจ้งกับครอบครัวว่าทำอะไรแต่ละวัน
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่สิ่งของส่วนตัวของพี่ชายจะหล่น และพี่ชายจะลงไปเก็บจนเกิดเหตุสลดนี้ น้องชายระบุว่าตนเองไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น เราเป็นคนนอกไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ผู้เสียชีวิตทำผิดระเบียบบริษัทด้วยการลงจากรถไปเก็บของ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะทำ ส่วนตัวมองว่าไม่มีหลักฐานที่จะมาต่อว่าพี่ชายของตนเองว่าลงไปเก็บของและเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต ตนไม่ทราบว่าเพราะสาเหตุอะไรถึงเกิดเรื่องนี้
และยอมรับว่าติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และภาพที่เผยแพร่เป็นภาพที่น่ากลัวที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมา ตนเองพบพี่ชายทุกวัน เมื่อวานเองพี่ชายก็ได้เจอกันที่บ้าน รวมทั้งเมื่อช่วงเช้าก่อนไปทำงานก็ยังพบกัน
ทั้งนี้พี่ชายมีรถปิคอัพส่วนตัว และ ต้องเปลี่ยนรถเป็นของสวนสัตว์ดังกล่าวก่อนจะเข้าไปในพื้นที่ ทั้งนี้พี่ชายไม่ได้พูดอะไรก่อนหน้านี้หรือมีลางสังหรณ์ ก่อนหน้าพี่ชายของตนได้ลาพักร้อน และกลับมาทำงานตามปกติ
สุดท้ายนี้ตนอยากจะฝากให้ทางสวนสัตว์มีมาตรการดูแลพนักงานให้ดีมากกว่านี้ เพราะเรื่องนี้ทำให้พี่เสียชีวิตและครอบครัวเสียใจ ตอนนี้ยอมรับว่ายังไม่ได้รับการประสานจากทางสวนสัตว์มีเพียงการพูดคุยจากโรงพยาบาลเรื่องการเสียชีวิตของพี่ชาย
เปิดใจภรรยา เหยื่อสิงโต ขย้ำตับ วอน ทุกฝ่ายเห็นใจ ชีวิตหนึ่งคนที่ต้องสูญเสีย ร่ำไห้ ต้องมีคนรับผิดชอบ ย้ำ สามีไม่ได้ป่วยซึมเศร้า เหม่อลอย ตามที่หลายฝ่ายสงสัย เผย ทุกเช้า ต้องช่วยกันทำมาหากิน ตั้งเป้าหมาย เกษียณแล้วจะไปอยู่ด้วยกันสองตายายที่ต่างจังหวัด

ต่อมา เมื่อเวลา 15.50 น. ที่ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา นางสาวรัตนาภร จิตรภักดี อายุ 57 ปี ภรรยาของ นายเจียน รังคะรัสมี อายุ 58 ปี ผู้ตาย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทางน้ำตา หลังจากสูญเสียสามี อย่างกระทันหัน
นางสาวรัตนาภร กล่าวว่า ตนรู้สึกตกใจและช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เนื่องจากว่ามีเจ้าหน้าที่ที่สวนสัตว์โทรมาแจ้งน้องชายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน้องชายจึงรีบโทรมาหาตน จากนั้นทางครอบครัวก็รีบไปที่โรงพยาบาลทันที เมื่อมาถึงยอมรับว่าไม่กล้าเข้าไปดูหน้าของสามีเนื่องจากยังทำใจไม่ได้
ที่ผ่านมาสามีทำงานอยู่ที่สวนสัตว์แห่งนี้มาตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม จนตอนนี้ก็ใกล้จะเกษียณอายุ เขาเป็นคนรักงานนี้มาก รักสัตว์ และ เป็นคนใจเย็นรอบคอบ เมื่อ 2 วันก่อน เราสองคน ยังคุยกันถึงชีวิตหลังเกษียณอายุ ว่าสามีมีความฝันว่าหลังจากเกษียณ จะนำเงินเกษียณที่ได้มาไปซื้อที่ประมาณ 1 ไร่ เล็ก ๆ ที่ต่างจังหวัด แล้วอาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คนในบั้นปลายชีวิต แล้วก็ประกอบอาชีพเกษตรกร
ส่วนหน้าที่ของสามี ตนไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่รู้ว่ามีส่วนรับผิดชอบในการดูแลสิงโตกับเสือมานาน ตนก็มักจะคอยบอกเสมอว่าทำงานกับสัตว์ ดุร้ายจะต้องระมัดระวัง เพราะเราเดาใจมันไม่ถูก ซึ่งสามีก็ทราบดี และ ที่ผ่านมาสามีก็ไม่เคยได้รับบาดเจ็บจากการที่ถูกสัตว์ทำร้าย มีเพียงแค่ได้รับบาดแผลจากรถยนต์เท่านั้น
“ สิ่งที่อยากจะบอกกับสามีคือ ในเมื่อเราเดินคนละทางกันแล้ว ยังรัก เป็นห่วง และคิดถึงมาก เขาตั้งใจทำงานทุกวันเพื่อครอบครัว และเมื่อเสาหลักของครอบครัวขาดไป ก็ยอมรับว่าจากนี้ชีวิตคงลำบากเพราะ ที่ผ่านมาสามีก็จะเป็นคนคอยช่วยเหลือเตรียมของให้สำหรับไปขายในช่วงเช้าทุกวันและสามีเป็นคนเข้มแข็งมาก ไม่เคยท้อเลย มีแต่เราที่อ่อนแอ และสามีก็ให้กำลังใจเสมอ ”
อย่างไรก็ตาม กระแสสังคมตั้งคำถามมากมายถึงเรื่องสุขภาพของสามี ตนขอยืนยันและอยากขอความเป็นธรรมให้กับสามี ว่าที่ผ่านมาสามีไม่ได้มีความเครียด ไม่ได้มีปัญหาครอบครัว หรือป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ไม่เคยยืนเหม่อรอย และ ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยเลย ย้ำว่า ไม่มีประวัติการรักษาอาการทางจิตด้วย
ทั้งนี้ ที่หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมสามีถึงต้องลงจากรถนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้รับการติดต่อจากบริษัท แต่มองว่า เรื่องดังกล่าว ควรจะต้องมีคนรับผิดชอบเพื่อความเป็นธรรม กับชีวิตของคนหนึ่งคน ที่ตั้งไจทำงานมาตลอดแทบไม่ได้หยุด
แพทย์ ระบุ ขณะร่าง”นายเจียน“มาถึง รพ. พบไม่ชีพจรแล้ว พยายามกู้ชีพแต่ไม่เป็นผล ทั้งนี้พบบาดแผลสาหัสหลายตำแหน่ง ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ หลังจากนี้เตรียมส่งนิติเวชชันสูตร

ต่อมา พญ.ณิชากร วงค์คม แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน บอกว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้นำร่างของนายเจียน มาส่งที่ห้องฉุกเฉินถึง เมื่อเวลา 12:10 น. ระหว่างนั้นตนเองเป็นแพทย์เวรประจำห้องฉุกเฉิน ซึ่งเมื่อตัวของนายเจียนมาถึงทางแพทย์ ก็ได้มีการกู้ชีพทันที เนื่องจากว่าคนไข้ไม่มีชีพจรแล้ว แต่ปรากฏว่าการกู้ชีพไม่เป็นผลเนื่องจากฝ้าบริเวณร่างกายของนายเจียนมีบาดแผลสาหัสหลายตำแหน่ง ซึ่งเป็นบาดแผลดังกล่าวก็อาจจะทำให้นายเจียนเสียชีวิตได้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลตำแหน่งของบาดแผลได้
ในส่วนของ นพ.ประภาส ธีระกุล ผอ.โรงพยาบาลอินทรารัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ร่างของผู้ตายได้ถูกนำไปเก็บในห้องรักษาศพ ซึ่งอยู่ในช่วงระหว่างการพูดคุยกับทางญาติของผู้เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจะนำร่างของผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลไหน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากว่า กรณีนี้เป็นการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะสามารถส่งร่างของนายเจียน ไปผ่าชันสูตรพลิกศพ ได้เมื่อไหร่ ทางนายแพทย์ประภาสบอกว่า จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดทางนี้ก็อยู่กับพนักงานสอบสวน โดยไม่ได้มีช่วงเวลาจำกัด เนื่องจากว่า การส่งศพไปตรวจชนะสูตรนั้นสามารถทำได้ 24 ชั่วโมง
สยอง!!! สิงโตรุมขย้ำฉีกร่าง ชายวัย 58 ปี จนท.สวนสัตว์ชื่อดัง!!

