“รองฯโจ๊ก” ยื่นร้องสอบจริยธรรมและวินัย “ตุลาการศาลปกครองสูงสุด” เรียนหลักสูตร นปธ.รุ่นเดียว “ผบ.ต่าย” เหตุ รู้ตัวเป็นเพื่อนกัน แต่ยังนั่งพิจารณาคดี อาจขัดต่อจริยธรรมและความเป็นกลาง

วันนี้ (9 ก.ย.68) ที่ ศาลปกครองสูงสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. เดินทางมายื่นคำร้องขอคัดค้านการทำหน้าที่ของตุลาการศาลปกครองสูงสุด และขอให้ปฏิบัติตามจริยธรรมตุลาการศาลปกครองสูงสุด ข้อ 6 ในคดีที่พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน
ทั้งนี้ เนื่องจากพบว่าตุลาการศาลปกครองสูงสุดท่านนี้ เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการพิจารณาสำนวนคดี แตุละมีหลักฐานพบว่า ตุลาการท่านนี้ ได้เรียนหลักสูตร นิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย หรือ นปธ. ของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหลักสูตรเดียวกับที่ พลตำรวจเอกกิตติรัฐ เรียนอยู่
โดยตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปี ที่ทั้งคู่เรียนด้วยกัน มีกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันทั้งในช่วงเวลาเรียน และออกไปศึกษาดูงาน รวมทั้งการพบปะสังสรรค์ระหว่างการเรียน จึงทำให้เกิดความสนิทสนมในฐานะเพื่อน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังย้ำว่า ความเป็นเพื่อน ของตุลาการศาลปกครองสูงสุดท่านนี้และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ถูกร้อง อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อตนเอง ซึ่งเป็นผู้ร้อง โดยมองว่าความสนิทสนมของทั้งคู่ อาจทำให้การทำหน้าที่ ของตุลาการศาลปกครองสูงสุดท่านนี้ ไม่เกิดความเป็นกลาง ในการพิจารณาสำนวน ดังนั้นจึงขอคัดค้านการ ปฎิบัติหน้าที่ของตุลาการศาลปกครองสูงสุดท่านนี้ และขอให้มีการสอบจริยธรรม และวินัย ด้วย
ทั้งนี้เนื่องจาก ตุลาการท่านนี้ ทราบเป็นอย่างดี ว่าตัวเองมีความสนิทสนมกับพลตำรวจเอกกิตติรัฐ ในระหว่างเรียน และรู้ว่าเพื่อนร่วมหลักสูตรคนนี้เป็นผู้ถูกร้องในคดี ที่ตุลาการท่านนี้ เป็นผู้พิจารณาสำนวน แต่ท่านกลับเพิกเฉย ไม่ขอถอนตัวจากคดี ทั้งที่เรื่องนี้ เป็นเรื่องของจริยธรรมและวินัย ของศาลปกครอง
การไม่ขอถอนตัวจากคดี จึง ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมของศาลปกครอง ข้อ 6 ซึ่งเขียนไว้ชัดว่า ตุลาการศาลปกครอง พึงถอนตัวจากการพิจารณาและพิพากษาคดีเมื่อมีเหตุที่ตนอาจถูกคัดค้านได้ตามกฎหมาย หรือเมื่อมีเหตุประการอื่นที่เกี่ยวกับตัวตุลาการศาลปกครอง อันอาจทำให้การพิจารณา พิพากษาคดีนั้น เสียความ ยุติธรรรม และจักต้องไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นการจูงใจตุลาการศาลปกครอง ซึ่งพิจารณาพิพากษาคดีนั้นในภายหลังในประการที่อาจทำให้เสียความยุติธรรมได้และยังเป็นการทำผิดวินัย แห่งการเป็นข้าราชการตุลาการศาลปกครอง ข้อ 5 ด้วย
ในครั้งนี้จึงเดินทางมายื่นข้อร้องเรียน ต่อประธานศาลปกครองสูงสุด ที่ศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้ ประธานศาลปกครองสูงสุด ดำเนินการทางจริยธรรม และสอบวินัย กับตุลาการศาลปกครองสูงสุดท่านนี้ด้วย

