วันที่ 7 กันยายน 2568 เวลา 19.30น.ที่อินเดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 รอบชิงชนะเลิศ ท่ามกลางกองเชียร์กว่า 5,719 คน โดย ตุรกี ทีมอันดับ 3 ของโลก แชมป์ยุโรปและแชมป์เนชันส์ลีก 2023 พ่ายต่อความแข็งแกร่งของ อิตาลี ทีมอันดับ 1 ของโลก แชมป์โอลิมปิก ปารีสเกมส์ และแชมป์เนชันส์ลีกสองสมัยซ้อน ไปอย่างสุดมันส์ 2-3 เซ็ต (23-25, 25-13, 24-26, 25-19, 8-15)

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้อิตาลีคว้า แชมป์โลกสมัยที่ 2 ต่อจากความสำเร็จเมื่อปี 2002 โดยครั้งล่าสุด (2022) พวกเธอได้เพียงเหรียญทองแดง

เกมนี้ เมลิสซ่า วาร์กัส หัวเสาตุรกีโชว์ฟอร์มร้อนแรง กดไปถึง 33 คะแนน (ตบ 28, บล็อก 1, เสิร์ฟเอซ 4) แต่ยังไม่เพียงพอพาทีมคว้าแชมป์โลกประวัติศาสตร์ ขณะที่ เปาลา เอกัวนู ของอิตาลีทำไป 22 คะแนน (ตบ 18, บล็อก 3, เสิร์ฟเอซ 1) เป็นหัวใจสำคัญพาทีมเถลิงแชมป์

ด้านแรงกิ้งโลก อิตาลียังคง รั้งเบอร์หนึ่งของโลก ต่อไป แม้จะได้คะแนนเพิ่มเพียง 0.01 ส่วนตุรกียังอยู่อันดับ 3 เช่นเดิม

หลังจบการแข่งขันได้มีพิธีมอบเหรียญและถ้วยรางวัลให้กับทีมที่ชนะเลิศ รองชนะเลิศ และนักกีฬาฯยอดเยี่ยมด้านต่างๆประกอบด้วย
MVP : อเลสเซีย ออโร่ อิตาลี
หัวเสายอดเยี่ยม 1 : มายู อิชิกาว่า ญี่ปุ้น
หัวเสายอดเยี่ยม 2 : กาเบรียลล่า กิบาเรส บราซิล
บอลเร็วยอดเยี่ยม 1 : แอนนา ดาเนซี่ อิตาลี
บอลเร็วยอดเยี่ยม 2 : เอด้า เออร์เด็ม ตุรกี
เซตยอดเยี่ยม : อเลสเซีย ออโร่ อิตาลี
ตบตรงข้ามหัวเสายอดเยี่ยม : เมลิสซ่า วากัส ตุรกี
ลิบโบโร่ยอดเยี่ยม : โมนิก้า ดี เกนนาโร่ อิตาลี
บรรยากาศในพิธีมอบรางวัลและปิดการแข่งขันเต็มไปด้วยความชื่นมื่น ท่ามกลางภาพความประทับใจที่ถูกบันทึกไว้ตลอดงาน ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจากทุกฝ่าย สะท้อนถึงความสำเร็จของไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับโลกอย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นการตอกย้ำความภาคภูมิใจของคนไทยกับสมญานาม “ดินแดนแห่งวอลเลย์บอล” อย่างแท้จริง

