วันที่ 30 ส.ค.68 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยถึงกรณีไปพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อคืนนี้ โดยระบุว่า ตนมีแค่ 1 เสียงตัวคนเดียว การจะโหวตใครเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐบาลคงไม่ทำให้ ตนได้เป็นรัฐมนตรีหรอก และขอยืนยันว่าตนจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมจะเป็นฝ่ายค้านอิสระ ที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลและติดตามงานที่ยังคั่งค้างอยู่ จนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่
“อย่าเพิ่งตกใจหรือผิดหวังที่เห็นผมไปแสดงความยินดีกับคุณอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และพูดคุยบอกว่าจะโหวตให้เป็นนายกฯ ซึ่งก็หมายถึงการสนับสนุนให้เป็นรัฐบาล แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องนี้ มากไปกว่าการเห็นประเทศชาติมีทางออกและไม่เกิดสูญญากาศในการแก้ไขปัญหา” นายกัณวีร์ กล่าว
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่า ขอให้มั่นใจว่า ตนเป็นคนชัดเจนในจุดยืน ที่บอกตั้งแต่แรกว่าการแก้ไขปัญหาทางการเมืองไทยในปัจจุบันนี้ คือ “การยุบสภา” และ ตนยังยืนยันว่าต้องคืนอำนาจให้พี่น้องประชาชนแล้วเลือกผู้รับใช้พี่น้องประชาชนเข้าสภาฯ ใหม่โดยเร็ว นี่คือจุดยืนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง”แต่ผมเห็นครับว่ารัฐบาลรักษาการณ์กำลังเล่นเกมทางการเมืองเพื่อดึงเวลา และจะให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เป็นคนของพรรคเพื่อไทย และผมพูดเสมอว่ากว่าสองปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยขาดความชอบธรรมในการเป็นรัฐบาลแล้ว เนื่องจากการทำงานเชิงนโยบายและบริหารจัดการที่ล้มเหลว และไม่ตอบโจทย์ในการเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง
นายกัณวีร์ เห็นว่า นี่คือเกมการเมืองที่พรรคเพื่อไทยกำลังพยายามให้มีการโหวตเลือกแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย ตนจึงมองไปที่แคนดิเดตทั้งหมด และที่เห็นว่าเป็นไปได้มากสุดคือ คุณชัยเกษม แห่งเพื่อไทย และคุณอนุทิน แห่งภูมิใจไทย ตนเป็นคนชัดเจนว่าหากนี่คือการเกมการเมืองที่จะต้องถูกลากนำไป ก็แสดงให้สังคมเห็นว่า ตนชัดเจนว่าใครควรได้รับเลือกเป็นนายกฯ
“ผมบอกชัดว่าหากใครสามารถตอบโจทย์ผม 2 ข้อ คือออกเสียงประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 และมีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง และต้องยุบสภาในเวลาอันชอบโดยเร่งด่วน และสามารถเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีแผนระยะเฉพาะหน้า กลาง และยาว และคนที่สามารถสถาปนาจุดยืนทางการทูตเชิงรุกของไทยที่จะนำมาซึ่งการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน และเรียกศรัทธาของพี่น้องประชาชนคนไทยกลับคืนมาได้อย่างชอบธรรม ผมจะยกมือเสียงนี้ให้สำหรับการเป็นนายกรัฐมนตรี” นายกัณวีร์ กล่าว
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่า เมื่อคืนตนจึงเข้าไปที่พรรคภูมิใจไทย เพราะนายอนุทิน ยืนยันว่าสามารถทำทั้ง 2 ข้อที่ตนเสนอไปได้ และยังได้ฟังจุดยืนจากคุณอนุทินฯ อีกครั้งว่าจะเป็นเพียงรัฐบาลเฉพาะกิจ 4 เดือน แล้วยุบสภา ตามเงื่อนไขของพรรคประชาชน ซึ่งตรงกับจุดยืนของผมจากคุณอนุทินฯ เองด้วย เพราะอย่างที่ตอบนักข่าวไปว่า ถ้าระหว่างนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย กับ นายอนุทิน พรรคภูมิใจไทย ตนจะโหวตให้ใครเป็นนายกฯ ตนบอกว่าเสียงเดียวของตน คงโหวตให้นายอนุทิน เพราะพรรคเพื่อไทยหมดความชอบธรรมไปแล้ว
นอกจากนี้ เราเคยผ่านการตั้งรัฐบาลตระบัดสัตย์มาแล้ว ผมก็เคยไปแถลงข่าวร่วมจัดตั้งรัฐบาลมาแล้ว แล้วผลเป็นอย่างไรครับ กว่า 2 ปี เรามีนายกฯ 2 คน การบริหารโดยการนำของพรรคเพื่อไทย ผลเป็นอย่างไร ทุกท่านก็ทราบดีแล้วถ้าคุณอนุทิน ได้ตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ หลายคนบอกว่า หน้าตารัฐบาลคงมีรัฐมนตรีไม่ต่างจากเดิม ซึ่งก็อาจจะเป็นเช่นนั้น และเรายังไม่รู้เลยว่าที่จับมือกันนั้น จะได้เป็นรัฐบาลจริงไหม
“ผมขอยืนยันว่าผมจะเป็นฝ่ายค้านอิสระ และจะไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆ จากรัฐบาลชุดใหม่จริง ๆ ผมจะทำงานของผมอย่างที่ผมเป็น ตามจุดยืนที่ผมมีต่อไปครับ”
นายกัณวีร์ กล่าวว่า ตนจะยังตามงานของพี่น้องจะนะ เรื่องการต่อต้านการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมจะนะ การเรียกร้องความเป็นธรรมให้พี่หมอสุภัทร (พี่หมอจุ๊ก) จากคำสั่งตรวจสอบจาก สธ ที่น่าสงสัย การออกโฉนดให้พี่น้องหลายพื้นที่ ตนจะตามเรื่องการสร้างสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชนต้องเป็นผู้นำในการสร้างสันติภาพและปฏิรุูประบบราชการใน จชต. ตนจะตามงานในเรื่องงานชายแดนทั้งไทย-กัมพูชา และไทย-เมียนมา เรื่องมลพิษข้ามแดน จุดยืนทางการทูตของไทยที่ต้องเปลี่ยนจากการทูตแบบเงียบๆ ไปเป็นการทูตแบบแทรกแทรงอย่างสร้างสรรค์ (constructive interventions) งานผู้ลี้ภัย บุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ งานการขจัดการเลือกปฏิบัติในทุกรูปแบบ การค้ามนุษย์และขบวนการนำพา คอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ ผมยังจะทำหน้าที่ในนามรัฐสภาไทยในเวทีโลกเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ไทยในเวทีโลก ฯลฯ
“ขอให้เชื่อมั่นในจุดยืนของผมทางการเมือง บททดสอบที่ผมได้ทำให้สังคมเห็นตั้งแต่ พ.ค. 2566 จนถึงปัจจุบันน่าจะเป็นหลักฐานให้สังคมมั่นใจในตัวผมได้ดี ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนคน ๆ นี้ได้ ขอให้ทุกท่านมั่นใจ เหมือนที่ผมพูดเสมอครับ หากเสนอตัวมารับใช้พี่น้องประชาชนแล้วต้องทำการเมืองแบบตรงไปตรงมา หากจะทำแบบบิด ๆ เบี้ยว ๆ แล้ว อย่ามาทำ เสียเวลาประเทศชาติ” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ

