วันนี้ (26 สิงหาคม 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสายนูดิน มามุ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ หัวหน้างานคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและอำนวยความเป็นธรรม กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาความมั่นคง ศอ.บต. ลงพื้นที่ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ร่วมหารือกับ พ.ต.ท.ดร.กฤษนล อุมาจิ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ตันหยง เพื่อตรวจสอบและติดตามมาตรการสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติด รวมถึงพืชกระท่อมที่มีส่วนผสมผิดกฎหมาย

การลงพื้นที่ดังกล่าวเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย “120 วัน วาระพืชกระท่อม” ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. ไม่เพียงเพื่อนำแผนสู่การปฏิบัติจริง แต่ยังเปิดพื้นที่รับฟังปัญหาและข้อเสนอจากผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เครือข่ายชุมชน และกลุ่มผู้ป่วย เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพและตรงจุด

พ.ต.ท.ดร.กฤษนล เปิดเผยว่า มาตรการ “120 วัน วาระพืชกระท่อม” ของ สภ.ตันหยง ดำเนินการเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การสร้างการรับรู้ ร่วมมือทุกภาคส่วนสร้างความตระหนักถึงโทษและผลกระทบของยาเสพติด ระยะที่ 2 มาตรการเชิงรุก เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย คัดกรองพื้นที่ทุกหมู่บ้าน และทำโครงการ “เอ็กซเรย์” เพื่อตรวจสอบผู้เกี่ยวข้อง ระยะที่ 3 การยับยั้งและป้องกัน ป้องกันไม่ให้ผู้เสพ–ผู้ค้าเพิ่ม พร้อมดำเนินการเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ค้ารายสำคัญ

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ตัวเลขคดียาเสพติดลดลงชัดเจน โดยเฉพาะพืชกระท่อมที่ไม่พบการลักลอบขายหรือร้านจำหน่ายอีกต่อไป ชาวบ้านและผู้นำชุมชนต่างยืนยันว่า มาตรการนี้ได้ผลจริงและทำให้ชุมชนเข้มแข็งขึ้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังคงต้องติดตามคือการลักลอบปลูกหรือขายเล็กน้อยในบางพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยกันสอดส่อง เพื่อไม่ให้ยาเสพติดกลับเข้ามาสร้างปัญหาในสังคมอีก

