“รองฯเต่า”มือปราบขวัญใจโซเชียลเล่นแรง ส่งหนังสือ ถึง ประธาน ก.ตร. หวังขอขึ้น ผบช. อ้างมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แม้อาวุโสบ๊วย

380

วันนี้ (25 ส.ค.) มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยื่นหนังสือถึง นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการตำรวจและกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) เรื่อง ขอความเป็นธรรมในการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและโยกย้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียน

โดยแนบเอกสาร ได้แก่ 1.หนังสือ ตร. ที่ 0009.231/6218 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2568 เรื่อง ประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ รอง จตช. ลงมาถึง รอง ผบก. จำนวน 1 ฉบับ2.หนังสือ ตร.ที่ 0009.231/ว 2087 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เรื่อง หลักเกณฑ์การประเมินเพื่อใช้ประกอบการจัดทำข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 หมวด 3 จำนวน 1 ฉบับ 3.หนังสือ ตร.ที่ 0009.231/ว 2088 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เรื่อง การคัดเลือกแต่งตั้งตั้ง​ ข้าราชการตำรวจ จำนวน 1 ฉบับ​ 4.หนังสือ สกพ.ที่0009.231/7633 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เรื่อง การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ จำนวน 1 ฉบับ

ใจความว่า ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1.สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ ผู้ช่วยผบ.ตร. และ รอง จตช. ลงมาถึง รอง ผบก.ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในแต่ละระดับตำแหน่ง เพื่อจะดำเนินการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบ.ตร. และ จตช. ลงมาถึง ผบก.วาระจำปี 2568 ตามนัยมาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2568 ซึ่ง ข้าพเจ้า​ พล.ต.ต.จรุญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้รับการประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจจระดับ รอง ผบช. ประเภทตำแหน่งทั่วไป ให้เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเป็นผู้บัญชาการ โดย ตร.ได้แต่งตั้งคณะทำงานจัดทำร่างหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณาแต่งตั้งฯ โดยให้ทุกหน่วยงานร่วมกันได้แสดงความคิดเห็น และมีหนังสือตามสิ่งที่ส่งด้วย

2.กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อใช้ประกอบการจัดทำข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเพื่อจัดลำดับผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเป็นรูปธรรม
ตรวจสอบได้และเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยหลักเกณฑ์นี้มุ่งหวังให้เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้สามารถพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท และเสียสละ ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการเต็มกำลังความสามารถซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และการบริหารราชการขององค์กร ตลอดจนประชาชนและสังคมต่อไปเป็นไปตามเจตนารมณ์เหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ที่วางหลักประกันไว้ว่า ข้าราชการตำรวจจะได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งและโยกย้าย การพิจารณาบำเหน็จความชอบตามระบบคุณธรรมที่ชัดเจนการพิจารณาแต่งตั้งและโยกย้ายต้องคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน เพื่อให้ข้าราชการตำรวจสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามวิชาชีพได้อย่างมีอิสระไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด มีประสิทธิภาพและภาคภูมิใจใจใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตน และตามสิ่งที่ส่งมาด้วย

3.กำหนดให้ข้าราชการตำรวจผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกนายจัดทำผลการปฏิบัติงานเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดทำข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและประกอบการพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้งของคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร.

แต่ต่อมาตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 4. ผบ.ตร.มีบันทึกมอบหมายให้ สกพ.แจ้งหน่วยต่างๆ ชะลอการดำเนินการใช้หลักเกณฑ์ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 โดยให้เหตุผลในทำนองว่า มีกรอบระยะเวลาที่กำหนดอย่างกระชันชิด ซึ่งจะต้องมีการสัมภาษณ์ผู้รับการประเมินในรูปคณะกรรมการ รวมถึงมีผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะต้องเข้ารับการสัมภาษณ์เป็นจำนวนมาก อาจส่งผลให้ไม่เกิดความละเอียดรอบคอบและอาจกระทบต่อการพิจารณาจัดทำผู้เหมาะสมในภาพรวมได้

ต่อมาข้าพเจ้าได้รับทราบจากสื่อมวลชนและข่าวสารภายในของข้าราชการตำรวจว่าคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร.ที่มี ผบ.ตร.เป็นประธาน ได้ร่วมกันประชุมพิจารณา
คัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.และ จตช.ลงมาถึง ผบก. และมีข้าราชการตำรวจจำนวนหลายนายไม่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์และเป็นประโยชน์สูงสดต่อประเทศชาติ ประชาชนและสังคม อย่างชัดแจ้งกว่านายอื่น ได้รับการพิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้งให้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น หรือสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปสู่ตำแหน่งที่ดีขึ้น เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ให้ความเห็นชอบ ซึ่งเมินเฉยต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามยาเสพติดและการจัดการผู้มีอิทธิพล ย่อมเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า การพิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้งตั้งกล่าวเป็นไปตามอำเภอใจใช้ดุลยพินิจไม่ชอบ ไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม ขาดความเสมอภาค ไม่สมเหตุสมผล และเลือกปฏิบัติเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ที่ไม่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ประชาชนและสังคม ได้รับการพิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นหรือสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปสู่ตำแหน่งที่ดีกว่าเดิม การกระทำดังกล่าวจึงขัดหรือแย้งกับเจตนารมณ์เหตุผลในการประกาศใช้
พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 เป็นอย่างยิ่ง เสมือนเป็นระบบอุปถัมภ์เชิงผลประโยชน์

นอกจากนี้ยังทราบว่า ในระดับรองผู้บัญชาการที่ดำรงตำแหน่ง 2 ปีตามเกณฑ์ ซึ่งมีจำนวน 38 นายคิดเป็นร้อยละ 45 ของผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และต้องมีสิทธิได้รับการพิจารณาในสัดส่วนของผู้ที่มีความรู้ความสามารถ แต่กลับถูกตัดออก ไม่ได้นำผลการปฏิบัติงานมาประกอบการพิจารณาแต่อย่างใด

“ข้าพเจ้าตระหนักดีกว่า คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) มีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการ
บริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม เพื่อให้ข้าราชการตำรวจมีความภาคภูมิใจและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเที่ยงธรรม หากการพิจารณาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้และสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 ย่อมเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานทกคนที่มุ่งมันสร้างผลงานที่มีคุณค่า ซึ่งจะส่งผลให้องค์กรมีกำลังพลที่มีคุณภาพและความสามารถ และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง ในทางกลับกันหากพิจารณาเพียงระบบอาวุโสหรือระยะเวลาการดำรงตำแหน่งเป็นหลักเพียงอย่างเดียว โดยละเลยความรู้ความสามารถและผลการปฏิบัติที่ปรากฎเป็นที่ประจักษ์ ย่อมจะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานหมดขวัญกำลังใจในการทำงาน
ซึ่งในระยะยาวอาจบั่นทอนประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กร และทำให้เจตนารมณ์ในการปฏิรูปตำรวจไม่สัมสัมฤทธิ์ผลได้”

หนังสือขอความเป็นธรรมฉบับนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการร้องขอในนามส่วนตัว แต่เป็นการยื่นเรื่องที่ตั้งอยู่
บนหลักการอันชอบธรรม เพื่อปกป้องเจตนารมณ์ของพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และส่งเสริมระบบคุณธรรมที่ถูกบัญญัติไว้ จึงขอให้คณะกรรมการข้าราราชการตำรวจ(ก.ตร.) โปรดพิจารณาดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมาย กฎ ระเบียบและคำสั่งที่กำหนดเป็นลายลักษณ์อักษรไว้อย่างเคร่งครัด โดยให้โอกาสข้าราชการตำรวจทุกนายที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและมีผลการปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ประชาชน และสังคมซึ่งเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดแจ้ง ได้รับการพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้งอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม อันจะส่งเสริมกำลังใจและประสิทธิภาพการทำงานขององศ์กรตำรตำรวจโดยรวมต่อไป

สำหรับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 45 จะเกษียณอายุราชการในปี 2572 ล่าสุดในการประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจเพื่อใช้แต่งตั้งระดับรอง ผบ.ตร. ถึง ผบก. วาระประจำปี 2568 ในตำแหน่งระดับรอง ผบช. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ อยู่ในลำดับที่ 94 ซึ่งเป็นลำดับท้ายสุด

ขณะเดียวกันในการแต่งตั้งระดับผบช.มีตำแหน่งว่าง 16 ตำแหน่ง ตามกฎก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งฯ กำหนดว่าในการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นจะต้องยึดหลักอาวุโสไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 จึงเหลือเพียง 8 ตำแหน่งที่พิจารณาจากความรู้ความสามารถ ซึ่งมีกระบวนการดำเนินการในรูปแบบคณะกรรมการ ตามกฎก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งฯ ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังเป็นตำรวจขวัญใจสื่อมวลชน ทีมักให้ข่าวกับสื่อในทุกคดีสำคัญที่ได้รับมอบหมายให้ลงไปกำกับ จึงเป็นขวัญใจสื่อมวลชน และยังเป็นเป็นขวัญใจโลกโซเชียลอีกด้วย