รัฐสภา, วันที่ 25 ส.ค. – นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา พื้นที่ “บ้านหนองจาน” อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ว่า เป็นพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองภายในกัมพูชา และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของไทยต่อคนกัมพูชาในช่วงตั้งแต่ 1950‘s (2493 – 2502) ช่วงการรุกรานของเวียดนามในกัมพูชา โดยกลุ่มเขมร 3 ฝ่ายมาตั้งหลักบัญชาการตามแนวชายแดนไทยเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลเฮงสัมรินที่หนุนหลังโดยเวียดนาม
นายกัณวีร์ เปิดเผยข้อมูลด้วยว่า บ้านหนองจานเป็นที่รู้จักจากการถูกสร้างโดยเขมรเสรี ผู้ต่อต้านเจ้าสีหนุ ตั้งแต่ช่วงปี 1950‘s เป็นต้นมา และช่วงต่อมาถูกทิ้งร้างไปจนกระทั่งมีสถานการณ์การรุกรานจากเวียดนามในกัมพูชาและมีการล่มสลายของเขมรแดง และจัดตั้งรัฐบาลเฮงสัมรินขึ้นมา จึงมีเขมรสามฝ่ายรัฐบาลผสมกัมพูชาประชาธิปไตย (CGDK) ตั้งขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลเฮงสัมริน มาตั้งฐานใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา
การจัดตั้งของ CGDK แล้วมาตั้งฐานประชิดชายแดนไทยมาก และในช่วงการต่อสู้กันของเขมรทั้ง 3 ฝ่ายกับเฮงสัมริน ทำให้ชาวกัมพูชาหนีข้ามอยู่ฝั่งไทยตามค่ายผู้ลี้ภัยต่าง ๆ โดยบ้านหนองจานนี้ก่อนปี 1979 (พ.ศ.2522) ได้มีหน่วยงานนานาชาติได้แก่ ICRC, UNICEF และ WFP มาให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอยู่ก่อนหน้าแล้ว จนกระทั่งถูกจัดตั้งเป็นศูนย์ให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมข้ามแดนโดย United Nations Border Relief Operation—UNBRO ภายใต้ร่มของ United Nations High Commissioner for Refugees—UNHCR
นายกัณวีร์ ระบุว่า นี่จึงเป็น Digital Footprint ของงานด้านมนุษยธรรมที่สำคัญในพื้นที่บ้านหนองจาน ว่าพื้นที่อยู่ในเขตไทย หรือกัมพูชา บ้านหนองจานเป็นพื้นที่ที่เก็บของช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลิตผลทางการเกษตร รวมถึงเครื่องมือเครื่องไม้ทางการเกษตร ยารักษาโรคและโภชนาการ ที่ส่งข้ามแดนไปยังกัมพูชา บ้านหนองจานไม่ใช่ค่ายผู้ลี้ภัย และถูกโจมตีอย่างหนักหลายร้อยครั้งจากทหารเวียดนาม เพราะถูกมองเป็นพื้นที่ซ่องสุมเสบียงของทหารเขมร 3 ฝ่าย จนกระทั่งแตกไปในเดือน พ.ย. 1984 (พ.ศ.2527) คนที่อยู่ในพื้นที่นี้ก็ถูกย้ายไป Site II และคนส่วนใหญ่ยังเรียกตัวเองว่ามาจากบ้านหนองจานอยู่ และพื้นที่ Site II นี้ยังอาจมีพื้นที่ก้ำกึ่งกับกัมพูชาบ้าง
UNBRO ได้รับรางวัลในเวทีระหว่างประเทศของโครงการ Land Bridge โดยคุณ Robert Patrick Ashe ผู้ริเริ่มการให้ความช่วยเหลือข้ามแดน ซึ่งถือว่าเป็นวิวัฒนาการในสมัยนั้นที่สามารถเอาความช่วยเหลือมนุษยธรรมข้ามแดนได้อย่างตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างครอบคลุม
“นี่จึงเป็นหนึ่งในหลักฐานเชิงประจักษ์ทางการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับพื้นที่พิพาทบ้านหนองจานในปัจจุบัน การมีข้อพิพาทในเรื่องหลักเขตแดนที่ต้องใช้เทคนิคมาเป็นหลักในการแก้ไขปัญหาทางเทคนิคก็คงต้องใช้อย่างเต็มที่ แต่ข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ทางการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมก็จะทำให้การเจรจามีหลักฐานเชิงประจักษ์มากขึ้นในพื้นที่บ้านหนองจานครับ” สส.พรรคเป็นธรรม กล่าว
นายกัณวีร์ ระบุด้วยว่า กรณีพิพาทบ้านหนองจาน ที่กัมพูชาอ้างว่าพื้นที่ที่ทหารไทย โดยกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 ได้ผลักดันประชาชนออกไปเป็นพื้นที่ของกัมพูชานั้น ฝ่ายไทยได้นำหลักฐานมายืนยันว่า พื้นที่บริเวณนั้นประมาณ 70 ไร่ ครอบครัวทหารกัมพูชาเข้ามาสร้างบ้านรุกล้ำในเขตไทย และที่ตั้งฐานทหารก็อยู่ในพื้นที่ของไทย จึงเป็นเหตุผลให้ต้องผลักดันออกไป และกัมพูชายังละเมิด MOU43 เพราะเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ในการปักปันเขตแดนระหว่างไทย และกัมพูชา ซึ่งจุดนั้นถ้าดูตามแผนที่ก็อยู่นอกเขตอ้างสิทธิ์ของกัมพูชาชัดเจน
“หากไทยยังยึดหลักต่อสู้ตามพยานหลักฐาน และข้อกฏหมายที่ชัดเจนแบบนี้อยู่ เราไม่ต้องกลัวเลยครับ และสิ่งที่เรามีเหนือกัมพูชา นั่นคือ ‘มนุษยธรรม’ การไม่ใช้กำลังอาวุธปะทะกันที่ ‘บ้านหนองจาน’ ก็คือการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมนั่นเอง แม้เรารู้ดีว่า ประชาชนกว่า 200 ครอบครัวในบ้านหนองจานฝั่งกัมพูชา ถูกใช้เป็นโล่มนุษย์ ขอเพียงไทยเราหนักแน่นถึงคำว่า ‘มนุษยธรรม’ เราจะยืดอกในเวทีโลกได้อย่างสง่าผ่าเผย สมกับที่ไทยเรามีส่วนสำคัญในการสร้างประวัติศาสตร์ให้บ้านหนองจาน เป็นพื้นที่มนุษยธรรมอย่างแท้จริงครับ” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ
