ตำรวจCIB รวบผู้ต้องหา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี

416

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.จตุรภัทร์ ภิรมณ์แก้ว รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.เศรษฐณัณฑ์ ปิยะสมบูรณ์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พงศกร โนรี ประจำ (สบ5) บก.ปคม., พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ เกิด เอี่ยม ผกก.6 บก.ปคม., พ.ต.ท.นภสินธุ์ ภูมี รอง ผกก.6 บก.ปคม., พ.ต.ท.ธงชัย สุยะลังกา รอง ผกก.6 (สอบสวน) บก.ปคม., พ.ต.ท.ธนภณ เอี่ยมสะอาด รอง ผกก.6 (สอบสวน) บก.ปคม., พ.ต.ท.ประวิทย์ ว่องไว ประจำ (สบ.3) บก.ปคม.ช่วยราชการ กก.6 บก.ปคม.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กรภพ กิจภูริพัฒน์ สว.กก.6 บก.ปคม. ได้สั่งการให้ ร.ต.ท.เอกวัฒน์ พานุรัตน์ รอง สว(ป) กก.6 บก.ปคม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ปคม.

ร่วมกันจับกุม นายยศกรฯ อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสงขลา ที่ 7/2568 ลงวันที่ 23 เมษายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยใช้อาวุธ,พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารแม้เด็กนั้นจะยินยอมก็ตาม และพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากมารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร”สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านในพื้นที่ ม.1 ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากมารดาของเด็กเข้ามาพบพนักงานสอบสวน สภ.นาทวี จ.สงขลา แจ้วว่า นายยศกรฯ ได้พาตัวเด็กซึ่งเป็นบุตรสาวของตนไปกระทำชำเรา ที่บ้านในพื้นที่ บ้านโพรงจระเข้ อ.นาทวี จ.สงขลา พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการออกหมายจับต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทราบการออกหมายจับ จึงทำการสืบสวนติดตามและทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา จึงกำลังไปตรวจสอบและได้พบตัว นายนายยศกรฯ ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านในพื้นที่ ม.1 อ.นาทวี จ.สงขลา จึงทำการจับกุมและแจ้งข้อหล่าวหาให้ทราบ จากนั้นนำตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสงขลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพในข้อกล่าวหาดังกล่าว

“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”