ปปง. ครบรอบ 26 ปี เดินหน้าปราบฟอกเงิน–บัญชีม้า ยึดทรัพย์กว่า 2.8 หมื่นล้าน ระงับเกือบ 1 ล้านบัญชี

734

26 ปี กับความมุ่งมั่นในการป้องกันและปราบปรามตลอดจนตัดวงจรการประกอบอาชญากรรมการฟอกเงินในรอบปีที่ผ่านมาดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดกว่า 28,269 ล้านบาท
และระงับบัญชีม้าเกือบ 1 ล้านบัญชี

วันที่ 19 สิงหาคม 2568 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) จัดงาน วันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 26 ปี สำนักงาน ปปง. โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วยนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้แทนหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงิน คณะผู้บริหารและข้าราชการสำนักงาน ปปง. เข้าร่วมงานฯ ณ โรงแรมเซ็นจูรี ปาร์ค กรุงเทพมหานคร

นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษ สำนักงาน ปปง. ในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายได้ดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ในการสร้างความมั่นคงและปลอดภัยให้กับสังคมและประเทศชาติ โดยยกระดับการปฏิบัติงานในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงให้เท่าทันต่อรูปแบบอาชญากรรมฟอกเงินใหม่ ๆ และเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้ารับการตรวจประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้าน AML/CFT ในปี พ.ศ. 2571 ซึ่งจะช่วยส่งเสริมบทบาทการทำงานของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ รวมถึงเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเงินของประเทศไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ในด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะเทียบเท่านานาอารยประเทศที่พัฒนาแล้วโดยยกระดับการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และพัฒนาองค์กรสู่องค์การที่มีสมรรถนะสูง รองรับการทำงานแบบดิจิทัล โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญดังนี้

ยกระดับการบังคับใช้กฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและทันต่อสถานการณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน เช่น

    • พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยาย อาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 และเสนอร่างกฎกระทรวงการนำทรัพย์สินที่ถูกระงับการดำเนินการมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐานการชำระหนี้ให้แก่บุคคลที่ถูกกำหนด และการรับชำระหนี้จากทรัพย์สินซึ่งถูกระงับการดำเนินการ พ.ศ. …. ซึ่งออกตามความ ในพระราชบัญญัติดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา

    • เสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมความผิดมูลฐาน การกำกับและตรวจสอบผู้มีหน้าที่รายงาน การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน และประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการและตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการฯ

    • ร่วมยกร่างและพิจารณาพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และรับผิดชอบในการยกร่างกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในพระราชกำหนดดังกล่าว (ร่างกฎกระทรวงการคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. ….) เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ การรายงาน การรับรองรายงาน รวมถึง ขั้นตอน วิธีการในการคืนเงินให้ผู้เสียหายตามความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และจัดส่งให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี

    ยกระดับการกำกับดูแลผู้มีหน้าที่รายงานการทำธุรกรรม โดยกำกับดูแลที่เข้มข้นยิ่งขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยง ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบธุรกิจต่าง ๆ เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนและเป็นไปตามกฎหมาย เรามุ่งเน้นการกำกับดูแล กลุ่มผู้มีหน้าที่รายงานให้เข้มงวด เพื่อป้องกันให้ระบบการเงินของประเทศถูกใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน และการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง นอกจาก การกำกับดูแลที่เข้มข้นแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ โดยได้จัด โครงการอบรมและสัมมนา เพื่อสร้าง ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติตามกฎหมายแก่ผู้มีหน้าที่รายงานอย่างต่อเนื่อง

    ทั้งนี้ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้ทุกคนสามารถป้องกันตัวเองจากการถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง ความมั่นคงทางการเงินให้กับประเทศ

    การบังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาดเพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์สิน โดยได้ใช้อำนาจตามกฎหมาย อย่างเต็มที่ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐาน เช่น การค้ายาเสพติด การฉ้อโกงประชาชน หรือการพนันออนไลน์ การดำเนินการนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การยึดหรืออายัดทรัพย์สิน แต่ยังรวมถึง การบริหารจัดการทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้ และการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาเพื่อมุ่งตัดวงจร การประกอบอาชญากรรมในทุกมิติ

    ผลการดำเนินการในปัจจุบัน (สิงหาคม 2567 – สิงหาคม 2568) สำนักงาน ปปง. ดำเนินการ กับทรัพย์สินมูลค่ากว่า 28,269 ล้านบาท ดังนี้
    (1) ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมมูลค่ากว่า 10,266 ล้านบาท
    (2) ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน รวมมูลค่ากว่า 11,888 ล้านบาท
    (3) ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย รวมมูลค่ากว่า 5,783 ล้านบาท รวมจำนวนผู้เสียหายที่ได้รับการคุ้มครองสิทธิกว่า 7,000 ราย
    (4) ส่งทรัพย์สินที่ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินไปยังกระทรวงการคลัง รวมมูลค่ากว่า 332 ล้านบาท
    โดยมีผลการดำเนินงานในรายคดีสำคัญ ดังนี้ 4.1 คดีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับยาเสพติด


    (1) รายคดี นายชาญชัยฯ กับพวก เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับยาเสพติดพื้นที่แนวชายแดนภาคเหนือ โดยยึดและอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายยาเสพติดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 43 ล้านบาท

    (2) รายคดี นายอานนท์ฯ กับพวก เป็นเครือข่ายใหญ่ มีผู้กระทำความผิดหลายราย แบ่งหน้าที่กันทำ โดยรับยาบ้าจาก สปป.ลาว ที่ลำเลียงเข้ามาในประเทศไทยแล้วกระจายไปในพื้นที่ต่าง ๆ รวมมูลค่าทรัพย์สิน ที่ยึดและอายัดประมาณ 86 ล้านบาท

    (3) รายคดี นางสาวสุรีวรรณฯ กับพวก เป็นกรณีเส้นทางการรับโอนเงินเชื่อมโยงกับบัญชีเงินฝากธนาคารของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด สืบสวนขยายผลพบความเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงประชาชน และการฉ้อโกง อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยมีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายหลายรายให้ร่วมลงทุนซื้อเฟอร์นิเจอร์ และเป็นเครือข่ายการฟอกเงิน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 500 ล้านบาท

    (4) รายคดี นายฮุ้ยหวาง หวัง (MR.HUIHUANG WANG) กับพวก ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการสืบสวนขยายผลจากผู้กระทำความผิดจากกรณีการตรวจค้นสถานบันเทิง (ผับจินหลิง) พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มยาเสพติดมีการนำเงินไปใช้ในการประกอบกิจการสถานบริการ และสนับสนุนกลุ่มเครือข่ายชาวจีนที่ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 53 ล้านบาท

    (5) รายคดี นายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าวฯ กับพวก กรณีการตรวจค้นสถานบริการจินหลิง กรุงเทพมหานคร พบพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าชาวจีน มีการดำเนินการกับทรัพย์สินต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ถึงปัจจุบัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 117 ล้านบาท 4.2 ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์

    (1) รายคดี นายณัฐวัตรฯ กับพวก กรณีเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ https:www.betflixroyal.com และ https:www.betflikroyal.net พบทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิด รวมถึงทรัพย์สินของนางสาวธันยนันฯ (มินนี่) และเชื่อมโยงไปยังข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ฯ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ ยึดและอายัดประมาณ 109 ล้านบาท

    (2) รายคดี นายยุทธนาฯ กับพวก กรณีเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ www.fullplays39.com ซึ่งมีการชักชวนและจัดให้มีการเล่นการพนันหลายรูปแบบ มีการโอนและรับโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารจำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 214 ล้านบาท

    (3) รายคดี นายธาดาฯ กับพวก กรณีเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการสืบสวนขยายผลจากข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์มือถือของกลุ่มเครือข่ายการพนันออนไลน์และพบความเชื่อมโยงกับทรัพย์สินจำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 557 ล้านบาท

    (4) รายคดี นายสง่าฯ กับพวก (เครือข่ายโกฟุก) ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการพนัน ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ความผิดฐานอั้งยี่ และความผิดฐานฟอกเงิน เคยมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้วกว่า 972 ล้านบาท และจากการสืบสวนสอบสวนพบข้อมูลการโอนผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารของกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิด โดยดำเนินการกับทรัพย์สินเพิ่มเติม มูลค่ากว่า 436 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 1,408 ล้านบาท

    (5) รายคดี นายยี่แก้วฯ กับพวก เป็นความผิดเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ www.บ้านหวย.com ลักลอบจัดให้มีการเล่นพนันออน์ไลน์ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 54 ล้านบาท

    (6) รายคดี นายภูมิพัฒน์ฯ กับพวก (อั้ม PSV) เครือข่ายเว็บไซต์พนันทางอิเล็กทรอนิกส์ www.ufa24h.net ฯ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 76 ล้านบาท

    (7) รายคดี การพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์ www.huaysodplus.com รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 290 ล้านบาท

    (8) รายคดีการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ราย MR.WONG WEI JUN DESMOND กับพวก (เครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ www.ufabet-jc.com) รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 117 ล้านบาท 4.3 ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน หรือฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ

    (1) รายคดี นายชนินทร์ฯ กับพวก (กรณีหุ้น STARK) โดยนายชนินทร์ฯ เป็นประธานกรรมการบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีพฤติการณ์ตกแต่งงบการเงิน แสดงข้อความอันเป็นเท็จในข้อมูล การเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวน พร้อมนำงบการเงินดังกล่าวไปใช้ประกอบการยื่นแบบแสดงรายการเสนอขายหุ้นกู้ เป็นพฤติการณ์ความผิดฉ้อโกงประชาชนและความผิดเกี่ยวกับการยักยอกทรัพย์อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 3,200 ล้านบาท

    (2) กรณีเครือข่ายการฉ้อโกงประชาชนขององค์กรอาชญากรรมระหว่างประเทศ (กรณี นายสฤษฏ์ฯ และการดำเนินการของบริษัท เหลียนเซิง จำกัด) เป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน กรณีพฤติการณ์ที่มีการชักชวนให้ผู้เสียหายโหลดแอปพลิเคชัน เพื่อเข้าลงทุนเทรดเหรียญดิจิทัล ซึ่งดำเนินการ เป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ ตั้งแต่เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อรองรับการโอนเงินของผู้เสียหาย และพูดคุยชักชวนให้ลงทุน โดยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีฯ ของกลุ่มผู้กระทำความผิด รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 2,561 ล้านบาท

    (3) รายคดี นางสาวธารารัตน์ฯ กับพวก กรณีหลอกลวงผู้ประกอบธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งต้องสั่งซื้อสินค้าจากประเทศจีนโดยใช้เงินสกุลหยวน ใช้อุบายหลอกลวงให้ลงทุนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ให้บุคคลทั่วไปมาแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาทเป็นเงินสกุลหยวนในอัตราที่ถูกแต่เมื่อถึงกำหนดไม่โอนเงินสกุลหยวน หรือไม่สามารถได้ผลตอบแทนตามกำหนด โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สิน ที่ยึดและอายัดประมาณ 924 ล้านบาท

    (4) รายคดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก พฤติการณ์ชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมธุรกิจ หรือลงทุนเพื่อจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ แต่ปกปิดเรื่องชักชวนให้ทำธุรกิจขายตรงทำให้ประชาชนที่เข้าร่วมธุรกิจไม่สามารถขายสินค้าหรือได้รับผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 1,018 ล้านบาท

    (5) บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ กับพวก กรณีนางสาวกรกนกฯ หรือแม่ตั๊ก และนายกานต์พลฯ หรือป๋าเบียร์ โฆษณาขายทองรูปพรรณพร้อมของแถม เพื่อจูงใจให้ผู้เสียหายตัดสินใจซื้อสินค้า แต่สินค้าไม่เป็นไปตามที่โฆษณา อันเป็นพฤติการณ์ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนฯ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 195 ล้านบาท

    (6) นายนพพรฯ กับพวก กรณีกลุ่มบุคคลชักชวนให้ลงทุนเทรดหุ้นทองคำ โดยได้ส่งแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อ “รอยัลโกลด์” ซึ่งในช่วงแรกผู้เสียหายพบว่าได้รับผลตอบแทนสูงและสามารถทำรายการเบิกถอนได้ตามปกติ จนกระทั่งเมื่อผู้เสียหายลงทุนเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้ รวมมูลค่าความเสียหาย รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 10 ล้านบาท

    (7) รายคดี นายบุญฯ กับพวก (หมอบุญ) กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนฯ ความผิดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงฯ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ พฤติการณ์จากการอาศัยความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับกิจการโรงพยาบาล นำเสนอแผนการระดมเงินทุน มีเจตนาหลอกลวงประชาชนที่หวังจะได้รับเงินตอบแทนในอัตราสูง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 362 ล้านบาท

    (8) รายคดี นายอภิมุขฯ กับพวก หรือบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีพฤติการณ์ ทำคำสั่งซื้อขายหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE อันมีพฤติการณ์ เป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงฯ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ (ปั่นหุ้น) รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายประมาณ 5,000 ล้านบาท

    (9) รายคดี นายฉี ซู (MR.QU XI หรือ MR.XU QI) กับพวก กรณีกลุ่มจีนเทาร่วมกันหลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนและโอนเงินไปลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี และผู้กระทำความผิดนำเงินไปโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายประมาณ 809 ล้านบาท

    (10) รายคดี ห้างหุ้นส่วนจำกัด สถานีหลักสี่ กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์โฆษณาข้อความชักชวนให้บุคคลทั่วไปร่วมลงทุนในโครงการเกษตร เมื่อกดลิงก์ที่อยู่ในหน้าโฆษณา พบว่าเป็นลิงก์ที่เชื่อมต่อไปยัง แอปพลิเคชันไลน์ ชักชวนให้ร่วมลงทุนในโครงการต่างๆ รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 136 ล้านบาท

    (11) รายคดี กลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมไฮบริดสแกมข้ามชาติ (ชื่อบัญชี นางสาววาสนาฯ กับพวก) กรณีหลอกลวงให้ร่วมลงทุนแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีผ่านเว็บไซต์ https: //www.ontos.vip โดยเป็นการฝากเงินเพื่อซื้อเงินสกุล USDT รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายประมาณ 80 ล้านบาท 4.4 ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากร


    (1) รายคดี นายศุภกรฯ กับพวก สืบเนื่องจากการจับกุมผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางร้านค้าออนไลน์ และมีการขยายผลตรวจสอบขบวนการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า และตรวจสอบเส้นทางการเงินพบบัญชีเงินฝากที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 21 ล้านบาท

    (2) รายคดี นายปวันฯ กับพวก กรณีการขนเงินสดผ่านแดน เชื่อมโยงทรัพย์สินจากขบวนการค้ายาเสพติด และการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการลักลอบขนเงินสดจากประเทศกัมพูชา นำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยฝ่าฝืนหรือมิได้แจ้งรายการผ่านทางด่านศุลกากรอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 15 ล้านบาท

    มุ่งมั่นทำหน้าที่ปกป้องระบบการเงินของประเทศให้ปลอดภัยจากการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง โดยปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งภายใต้กฎหมายไทย และมาตรฐานสากลของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการปฏิบัติทางการเงิน (FATF) ตลอดจนมติคณะมนตรีความมั่งคงแห่งสหประชาติ ผลการดำเนินงานที่สำคัญ

    ประกาศรายชื่อผู้มีการกระทำอันเป็นการก่อการร้ายตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Sanction List) จำนวน 507 รายชื่อ

    ประกาศรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดตามกฎหมายไทย (Thailand Sanction List) จำนวน 370 รายชื่อ (เพิกถอนแล้ว 40 รายชื่อ คงเหลือ 330 รายชื่อ)

    ประกาศรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธทำลายล้างสูงภายใต้คณะมนตรีความมั่นคง แห่งสหประชาชาติ
    o กลุ่ม DPRK (เกาหลีเหนือ) จำนวน 155 รายชื่อ
    o กลุ่ม IRAN (อิหร่าน) จำนวน 84 รายชื่อ
    มาตรการเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่การยึดและอายัดทรัพย์สิน การระงับธุรกรรม ไปจนถึงการประสานงานกับ หน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยมีระบบป้องกันภัยทางการเงินที่เข้มแข็ง และเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก

    บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนภารกิจในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ผ่านการลงนามความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภายในประเทศตั้งแต่สิงหาคม 2567 ถึงสิงหาคม 2568 รวม 3 ฉบับ ได้แก่

    (1) ลงนาม MOU กับสำนักงาน กลต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อยกระดับ การป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์อันเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสร้างความเชื่อมั่นแก่ตลาดทุน

    (2) กรมตรวจบัญชีสหกรณ์และกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อประสานความร่วมมือในการกำกับดูแลสหกรณ์เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินผ่านกิจการสหกรณ์

    (3) สำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลคดีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ อันเป็นประโยชน์ในการบังคับใช้กฎหมายในภารกิจของสำนักงาน ปปง.

    ผลักดันการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศในรูปแบบความร่วมมือ “ปปง. ภาคประชาชน” เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพสูงสุด

    เดินหน้าเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับหน่วยงานต่างประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เพื่อขจัดอุปสรรคในการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยระหว่างเดือนสิงหาคม 2567 ถึงสิงหาคม 2568 สำนักงาน ปปง. ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ส่งผลให้ปัจจุบันมีการลงนาม MOU แล้วทั้งสิ้น 59 ฉบับ ครอบคลุม 56 ประเทศ/เขตอำนาจทั่วโลก

    สร้างสรรค์นวัตกรรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินรูปแบบใหม่ ๆ รวมถึงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการปฏิบัติงานและการบูรณาการข้อมูล ที่เน้นความคุ้มค่าและคล่องตัว เช่น

      • การพัฒนาระบบคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหายในการ ยื่นคำร้องฯ
      • การพัฒนาระบบ AMSET เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการตรวจสอบข้อมูลผู้ถือครองหลักทรัพย์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
      • การพัฒนาระบบ AMCRIMES เพื่อนำเข้าข้อมูลและรายงานผลจากระบบสารสนเทศสถานีตำรวจ
      รวมถึงการบริหารจัดการระบบและข้อมูลรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงฯ กรณีบัญชีม้า ด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น

      สกัดกั้นภัยจากบัญชีม้าและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยสำนักงาน ปปง. ได้ใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อจัดการปัญหา บัญชีม้า และ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างรุนแรง โดยใช้อำนาจตามกฎหมายในการประกาศ รายชื่อบุคคลเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง เพื่อจำกัดช่องทางการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ประกาศรายชื่อบุคคลเสี่ยงแล้วจำนวน 93,530 รายชื่อ สามารถจำกัดช่องทางการทำธุรกรรมในบัญชี ที่เกี่ยวข้องได้ถึง 843,912 บัญชี มีเงินคงเหลือในบัญชีม้ารวมทั้งสิ้นกว่า 3,024 ล้านบาทได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เงินเหล่านี้ถูกนำไปใช้หลอกลวงหรือก่อความเดือดร้อน แก่ประชาชนได้อีก

      การดำเนินการดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นว่าสำนักงาน ปปง. มุ่งมั่นที่จะปกป้องทรัพย์สินของประชาชนและสร้างความมั่นคงในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่อาชญากรรมทางเทคโนโลยีแพร่หลาย เพื่อให้คนไทยสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างปลอดภัย

      การดำเนินคดีอาญาฟอกเงิน โดยสำนักงาน ปปง. สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการ ร้องทุกข์-กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน รวมกว่า 160 คดี พร้อมสนับสนุนข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน

      มุ่งขับเคลื่อนไปสู่องค์การที่มีขีดสมรรถนะสูงอย่างยั่งยืน โดยการส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงานตามแนวทางสำนักงานสีเขียว (Green Office) การพัฒนาบุคลากรอย่างสอดคล้องกับสมรรถนะ

        เลขาธิการ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ 26 สำนักงาน ปปง. ยังคงมุ่งขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกด้านอย่างเต็มรูปแบบด้วยความมุ่งมั่น ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย อย่างยั่งยืน เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติและประชาชน