กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล.,พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง, พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง รอง ผกก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ทศพล กิติลาภ สวญ.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.พุทธางกูร เรืองธรรม สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล.ร่วมกันจับกุม นายสรชนฯ หรือแต้ม อายุ 27 ปี และน.ส.เจนจิราฯ หรือเจน อายุ 31 ปี โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรโดยใช้ยานพาหนะฯ”พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (กระบะบรรทุกมีหลังคา) ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีเทา พร้อมกุญแจรถ จำนวน 1 ดอก, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีเทา-ดำ จำนวน 5 คัน (แจ้งหาย สน.บางรัก จำนวน 1 คัน, แจ้งหาย สน.ยานนาวา)
, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 13 สีดำ จำนวน 1 เครื่องสถานที่จับกุม หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงเกาะหลัก ต.อ่าวน้อย อ.เมืองจ.ประจวบคีรีขันธ์
พฤติการณ์ สืบเนื่องด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ว่าได้รับการติดต่อประสานงานจาก กก.สส.บก.น.6 และ ฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก
ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามคนร้ายกรณีลักรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ตำรวจนครบาล 6 ให้ช่วยสกัดจับรถยนต์ โดยจากการสืบสวน ทราบว่า รถจักรยานยนต์ ที่ถูกลักมา อยู่ระหว่างการขนย้าย โดยใช้รถยนต์คันดังกล่าวออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งคาดว่ารถคันดังกล่าว ได้มีการบรรทุกรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ถูกโจรกรรมไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เฝ้าสังเกต
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบรถยนต์ ตรงตามที่ได้รับแจ้งฯ ขับผ่านมาบริเวณ ถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุดรถ เพื่อทำการตรวจสอบ พบนายสรชนฯ แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ และมี น.ส.เจนจิราฯ นั่งมาบริเวณเบาะนั่งข้างคนขับ จากนั้นจึงได้ขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจตค้นพบ รถจักรยานยนต์ (ของกลางลำดับที่2) ซึ่งได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ตามบันทึกประจำวันของ สน.บางรัก ลงวันที่ 9 ส.ค.2568 และพบรถจักรยานยนต์ ซึ่งได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ตามบันทึกประจำวันของ สน.ยานนาวา ลงวันที่ 9 ส.ค.2568
นอกจากนี้ ยังตรวจพบรถจักรยานยนต์ ของกลาง อีกจำนวน 3 คัน รวมรถจักรยานยนต์ที่ตรวจพบทั้งสิ้น จำนวน 5 คัน เนื่องจากตรวจพบพร้อมกับรถจักรยานยนต์ ซึ่งถูกลักมาถึง 2 คัน จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่า รถจักรยานยนต์ อีก 3 คัน ที่เหลือ อาจเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดเช่นเดียวกัน จึงได้ตรวจยึดไว้ จึงเชื่อได้ว่า ผู้ถูกจับที่ 1 และ ที่ 2 ได้ร่วมกับพวกที่หลบหนี ทำการลักรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย ในหลายท้องที่ จากนั้นได้พารถจักรยานยนต์หลบหนีออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อส่งขายจริง โดยมีการตระเตรียมการมาก่อน และอยู่ระหว่างพารถยนต์ของกลาง หลบหนีออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรโดยใช้ยานพาหนะฯ” ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป
เตือนภัย ด้วยความห่วงใยปัจจุบันคนร้ายมีมีความชำนาญและอุกอาจในการก่อเหตุโจรกรรม ประชาชนควรตรวจสอบทรัพย์สินของตน เช่นการจอดรถควรตรวจสอบการล็อครถและจอดรถในบริเวณที่ที่ไม่ลับตาคน หรือสถานที่ที่มีผู้ดูแล หากมีเบาะแสเกี่ยวกับการโจรกรรมรถสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชนให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
