กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.,พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร รอง ผกก.3 บก.ป และพ.ต.ท.ศิษฎ์ พูลวงศ์ รอง ผกก.3 บก.ปเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พัฒษพงศ์ เสณีแสนเสนา, พ.ต.ท.กิตติภพ ทองเพชร, พ.ต.ท.ศราวุธ ทองน้อย สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.ดวง ขาวสะอาด รอง สว.กก.3 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.พิเศษ กก.3 บก.ป.ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย นางสาวกฤตพรฯ หรือ นางสาวณฐพัณณ์ฯ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดพัทยา ลงวันที่ 30 กรกฏาคม 2568 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม ยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกงทรัพย์ และลักทรัพย์นายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง”สถานที่จับกุม บริเวณถนนพรประภานิมิต เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จว.ชลบุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากมีประชาชนร้องขอให้ทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ กรณี นางสาวกฤตพรฯ หรือ นางสาวณฐพัณณ์ฯ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.439/2568 ลง 30 กรกฎาคม 2568 อดีตพนักงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเมื่อปี 2566 ถูกกล่าวหาว่า ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม เพื่อยักยอกเงินของบริษัท โดยปลอมสลิปการโอนเงินถึง 43 ครั้ง สร้างความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 13,683,808.07 บาท พร้อมถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงและลักทรัพย์ในความครอบครองของนายจ้างทันทีที่ได้รับแจ้ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการได้เร่งลงพื้นที่สืบสวน จนทราบว่าหลังจาก ก่อเหตุ ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีมาพักอาศัยในพื้นที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรีกระทั่ง เจ้าหน้าที่กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ได้รับข้อมูลว่า พบตัวผู้ต้องหาเดินอยู่บริเวณริมถนนพรประภานิมิต เจ้าหน้าที่ จึงเข้าตรวจสอบและสอบถาม กระทั่งผู้ต้องหายอมรับต่อหน้าเจ้าหน้าที่ว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง จึงแสดงหมายจับให้ดู อ่านสิทธิให้ฟัง และแจ้งข้อกล่าวหาอย่างครบถ้วนตามขั้นตอนจากนั้นได้ควบคุมตัวไปยัง สถานีตำรวจภูธรหนองปรือ เพื่อจัดทำบันทึกการจับกุม บันทึกแจ้งสิทธิตามมาตรา 22 และการควบคุมตัวตามมาตรา 23 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีนี้นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามผู้ต้องหาคดีเศรษฐกิจที่สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล ซึ่งเป็นที่จับตามองของสังคมตั้งแต่ปี 2566สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ถูกจับกุมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาเตือนภัย ประกอบการหรือผู้ที่กำลังจะเปิดบริษัท ควรตรวจสอบประวัติพนักงานอย่างรอบคอบก่อนรับเข้าทำงาน โดยเฉพาะตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับ การเงินหรือเอกสารสิทธิการปลอมเอกสารและสลิปโอนเงินสามารถสร้างความเสียหายมหาศาลให้กับธุรกิจในเวลาอันสั้นควรกำหนดขั้นตอนตรวจสอบและอนุมัติเอกสารหลายชั้น พร้อมใช้ระบบยืนยันจากหน่วยงานต้นทางทุกครั้งหากพบพฤติกรรมผิดปกติหรือมีพิรุธควรดำเนินการตรวจสอบทันทีและแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันความเสียหาย การปลอมเอกสารสิทธิและเอกสารการเงินเป็นความผิดร้ายแรง มีโทษทั้งจำและปรับ ผู้กระทำมักใช้เอกสารปลอมเพื่อยักยอกเงินหรือฉ้อโกงทำให้เหยื่อเสียหายมหาศาลธุรกิจและบุคคลทั่วไปควรตรวจสอบเอกสารกับหน่วยงานต้นทางทุกครั้งก่อนทำธุรกรรม หากพบพิรุธให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือธนาคารทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย
