” กลางเทือกเขาหินปูนอันยิ่งใหญ่ของดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ยังมีความงามเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ในรอยแยกของหินสูง ขณะที่สายตาส่วนใหญ่จับจ้องไปยังยอดเขาและทะเลหมอก มีพืชเลื้อยขนาดเล็กชนิดหนึ่งแอบอิงชีวิตอยู่เงียบ ๆ ในซอกหิน นั่นคือ ขวัญภิรมย์ อัญมณีสีเขียวแห่งวงศ์ Apocynaceae ที่หายากและมีเสน่ห์จับใจ“

พืชล้มลุกผู้ยืนหยัดในถิ่นทุรกันดาร
ขวัญภิรมย์เป็นพืชล้มลุกหลายปี เจริญเติบโตเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย บนเขาหินปูนที่สูงชันและแห้งแล้งของดอยเชียงดาว การมีชีวิตอยู่ของมันจึงสะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวขั้นสูง พืชชนิดนี้เกาะเกี่ยวอยู่ตามซอกหินราวกับรากเหง้าได้ยึดเหนี่ยวความฝันบางอย่างไว้ในหุบเขา
ใบของขวัญภิรมย์เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบตรงข้ามกัน ช่วยค้ำยันลำต้นอย่างสมดุล แม้จะเป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก แต่เมื่อมองใกล้ ๆ จะเห็นความละเมียดละไมของโครงสร้างทางพฤกษศาสตร์ที่แฝงไว้ด้วยความงามแบบเรียบง่าย
ดอกไม้แห่งจินตนาการ
สิ่งที่ทำให้ขวัญภิรมย์ตราตรึงสายตาของนักพฤกษศาสตร์และผู้หลงใหลธรรมชาติ คือดอกที่มีลักษณะโดดเด่นไม่เหมือนใคร กลีบดอกที่เชื่อมติดกันเป็นหลอดเบี้ยว บริเวณปลายหลอดจะขยายออกเป็นกระเปาะ กลีบดอกตอนปลายแยกออกเป็นแฉกที่มีขนละเอียดงอกออกมา ให้ความรู้สึกคล้ายผลงานประติมากรรมจากธรรมชาติ
สีเขียวของกลีบดอกตัดกับลวดลายม่วงแดงราวกับภาพวาด บางคนอาจมองเห็นเป็นหน้ากาก บางคนเปรียบเป็นโคมไฟจีน แต่ไม่ว่าอย่างไร มันคือศิลปะของวิวัฒนาการที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อความงามเท่านั้น—เพราะลวดลายและรูปร่างพิเศษนี้ อาจมีหน้าที่ดึงดูดแมลงผสมเกสรเฉพาะชนิด ที่สอดคล้องกับวงจรชีวิตอันซับซ้อนของพืชเฉพาะถิ่น

พืชถิ่นเดียวที่ต้องอนุรักษ์
แม้จะมีรายงานการพบขวัญภิรมย์ในประเทศจีนตอนใต้ แต่ในประเทศไทย พืชชนิดนี้พบได้เพียงบริเวณดอยเชียงดาวเท่านั้น ความเป็น “พืชถิ่นเดียว” ทำให้ขวัญภิรมย์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความหลากหลายทางชีวภาพ การสูญพันธุ์แม้เพียงจุดเดียวก็อาจหมายถึงการสูญพันธุ์จากโลกไปตลอดกาล
ด้วยเหตุนี้ การสำรวจและบันทึกข้อมูลของทีมสำรวจพรรณไม้เชียงดาวจึงนับว่ามีคุณูปการอย่างยิ่งในการปกป้องพืชหายากชนิดนี้ เช่นเดียวกับการระบุชื่อวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องโดย รศ.ดร.มานิต คิดอยู่ ซึ่งถือเป็นรากฐานของการศึกษาทางพฤกษศาสตร์ในระดับสากล
ธรรมชาติ…แรงบันดาลใจไม่สิ้นสุด
ขวัญภิรมย์ไม่เพียงเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงความงดงามของพืชพรรณไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความละเอียดอ่อนของธรรมชาติที่รอให้เราค้นพบและเข้าใจ การมีอยู่ของมันบนโลกคือบทกวีที่ธรรมชาติแต่งขึ้นในซอกหินอันเงียบงัน เป็นแรงบันดาลใจให้เราทุกคนหันกลับมามองความงามรอบตัว และร่วมมือกันรักษาไว้เพื่ออนาคต
“เพราะในรอยร้าวของผาหินยังคงมีชีวิตเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “ขวัญภิรมย์”งอกงามอยู่ในสายลม ภายใต้แสงแดด และความเงียบงันเพื่อย้ำว่า ธรรมชาติ…ยังคงเปล่งเสียงให้เราได้ยินหากเพียงเราจะเงี่ยหูฟัง“
ทีมสำรวจพรรณไม้เชียงดาว
หอพรรณไม้ Forest Herbarium – BKF

