วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ระหว่างเวลา 10.00 – 22.00 น. ตำรวจภูธรภาค 2 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) ได้บูรณาการกำลังกับหน่วยทหาร ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน 3 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว จันทบุรี และตราด เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในฝั่งประเทศกัมพูชา พร้อมดำเนินมาตรการรองรับ ผู้อพยพโดยไม่ละเลยหลักสิทธิมนุษยชน โดยมีผลการปฏิบัติที่สำคัญในแต่ละจังหวัด ดังนี้
จังหวัดสระแก้ว
ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับหน่วยทหารพรานและฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจและจุดสกัด 9 จุดหลัก ตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งจัดกำลังลาดตระเวน 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน และพื้นที่รอยต่อสำคัญ มีการดูแลด้านสาธารณสุขและความปลอดภัยอย่างรัดกุม ณ จุดพักพิงชั่วคราวในพื้นที่
จังหวัดจันทบุรี
ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจในพื้นที่ชายแดน เพิ่มความเข้มงวดการตั้งจุดตรวจและจุดสกัดตลอดเส้นทางธรรมชาติที่เชื่อมต่อกับชายแดนกัมพูชา จัดกำลังร่วมลาดตระเวนกับทหารพรานและฝ่ายปกครองในเขตพื้นที่ป่าภูเขา เพื่อป้องกันภัยแทรกซ้อน อาทิ การลักลอบนำเข้าอาวุธ หรือยาเสพติด มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและท้องถิ่น ดูแลความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้อพยพอย่างใกล้ชิด ณ จุดพักพิงชั่วคราว ในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน
นอกจากนี้ สภ.เมืองจันทบุรี ได้จัดตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าพื้นที่ทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน พร้อมจัดรถประชาสัมพันธ์ออกสู่ชุมชน เพื่อสร้างความเข้าใจและลดความวิตกกังวลของประชาชน มีการเฝ้าระวังพิเศษในเขตตลาด และพื้นที่ชุมชนใกล้เขตเศรษฐกิจพิเศษจันทบุรี เพื่อป้องกันเหตุร้ายและรักษาความสงบเรียบร้อย
จังหวัดตราด
ตำรวจภูธรจังหวัดตราด จัด ชุดเคลื่อนที่เร็ว ประจำการในพื้นที่ชายแดน อำเภอบ่อไร่ และอำเภอคลองใหญ่ เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินและช่วยเหลือประชาชน จัดตั้ง ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้อพยพ ในพื้นที่ อ.บ่อไร่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหมุนเวรดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ตรวจสอบและสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติด พบการพยายามนำเข้ายาบ้า 1 กรณี ตรวจยึดของกลางได้ 2,000 เม็ด สภ.เมืองตราด จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ประชาชนแนวชายแดน พร้อมประชาสัมพันธ์เส้นทางปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นในภาครัฐ
มาตรการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมเพิ่มเติม
ตำรวจภูธรภาค 2 ได้กำชับให้ทุกสถานีตำรวจในพื้นที่ชายแดน ยกระดับการรักษาความปลอดภัย อย่างเข้มข้น มีการจัดตั้ง ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจร่วม 3 ฝ่าย (ทหาร – ตำรวจ – ฝ่ายปกครอง) เพื่อบริหารสถานการณ์ร่วมกันอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งสนับสนุน เครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์ลาดตระเวน และยานพาหนะ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ
ตำรวจภูธรภาค 2 ขอยืนยันว่า สถานการณ์ชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบยังคงอยู่ในความสงบเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อคุ้มครองประชาชน และรักษาความมั่นคงของประเทศอย่างต่อเนื่อง
