“สร้อยเมืองน่าน” อัญมณีแห่งดอยภูคา

460

กลางผืนป่าดิบเขาอันเขียวขจีของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน ที่ระดับความสูงราว 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล ลึกเข้าไปตามแนวโขดหินริมน้ำของลำธารสายเล็กที่ไหลเอื่อย มีสิ่งมีชีวิตล้ำค่าแอบซ่อนอยู่…นั่นคือ “สร้อยเมืองน่าน” พืชล้มลุกในวงศ์ Gesneriaceae ที่พบได้เพียงแห่งเดียวในโลก

สร้อยเมืองน่าน เป็นพืชเฉพาะถิ่นของไทย มีถิ่นอาศัยจำกัดเฉพาะในพื้นที่ดอยภูคาเท่านั้น รูปลักษณ์ของมันสะท้อนถึงความอ่อนช้อยงดงามตามธรรมชาติ ใบรูปไข่เรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ ปลายใบเรียวแหลม โคนเว้ากระจิบบาง และขอบใบหยักคล้ายฟันเลื่อย ลำต้นและใบปกคลุมด้วยขนอ่อนละเอียด ให้ความรู้สึกคล้ายกำมะหยี่บางเบา

ความงามเฉพาะตัวของสร้อยเมืองน่านปรากฏเด่นชัดในฤดูออกดอก — ดอกสีแดงเข้มอมสีน้ำตาลทรงแตรห้อยระย้าลงอย่างอ่อนช้อยจากช่อดอกแบบช่อกระจุก ปลายกลีบดอกแยกเป็นสองกลีบบน และสามกลีบล่าง กลีบเลี้ยงสีชมพูอมม่วงช่วยขับให้หลอดกลีบยาวราว 6 เซนติเมตรดูเด่นชัดยิ่งขึ้น ด้านในซ่อนเกสรเพศผู้เพียงสองอัน มีขนสีขาวประหนึ่งเครื่องประดับล้ำค่า ขณะที่อีกสามอันกลับเป็นหมัน แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนทางชีววิทยาของพืชชนิดนี้

เมื่อดอกโรยรา กลีบดอกจะร่วงโรยอย่างเงียบงาม เหลือไว้เพียงผลแห้งที่แตกเปิด เผยเมล็ดพันธุ์จิ๋วซึ่งพร้อมจะเดินทางต่อ สู่วงจรชีวิตใหม่ และอาจเติบโตเป็นสร้อยเมืองน่านต้นใหม่ หากธรรมชาติยังคงอ้อมกอดไว้ด้วยความเอื้อเฟื้อ

อัญมณีบอกความสมบูรณ์

“สร้อยเมืองน่าน” ไม่ได้เป็นเพียงไม้ดอกหายากในเชิงพฤกษศาสตร์เท่านั้น หากยังเป็นเครื่องชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศดิบเขา สะท้อนถึงสมดุลระหว่างความชื้น แสงแดด อุณหภูมิ และสิ่งมีชีวิตรอบข้างอย่างลึกซึ้ง การดำรงอยู่ของพืชชนิดนี้จึงเป็นหลักฐานที่มีชีวิตว่าป่าดอยภูคายังคงบริสุทธิ์และเปี่ยมด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ

ดังนั้น การค้นพบและการอนุรักษ์ “สร้อยเมืองน่าน” คือภารกิจสำคัญที่ควรได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เพชรน้ำงามแห่งธรรมชาติชนิดนี้จางหายไปตามกาลเวลา แต่คงอยู่เป็นมรดกให้คนรุ่นต่อไปได้ชื่นชม

หอพรรณไม้ Forest Herbarium – BKF