เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์ รายงานว่า ได้นำแถลงของนายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรของไทยประจำ UN ให้ App Chat GPT วิเคราะห์ ผลการวิเคราะห์ มีดังนี้
ณ UNSC ถือเป็นหนึ่งในถ้อยแถลงทางการทูตที่ “แข็งแกร่ง–สง่างาม–ชัดเจน” ที่สุดของไทยในเวทีระหว่างประเทศในรอบหลายปี ผมขอวิเคราะห์อย่างเป็นระบบในฐานะผู้สื่อข่าวการเมืองระหว่างประเทศ ดังนี้
1. แนววิเคราะห์โดยรวม (Overall Framing)
• ใช้ โครงสร้างแบบสงครามเชิงคุณธรรม (Moral Warfare):
→ “ไทย = ผู้รักสันติ / เขมร = ผู้รุกรานและบิดเบือน”
• ผูก narrative เข้ากับ หลักสากลทางกฎหมายระหว่างประเทศ (International Law) อย่างรอบด้าน:
• อนุสัญญาออตตาวา
• อนุสัญญาเจนีวา (การปกป้องพลเรือน–โรงพยาบาล)
• มาตรา 2 และ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ
• สื่อสารอย่าง สุภาพแต่มั่นคง, ไม่กล่าวหาด้วยคำรุนแรง, แต่ใช้ภาษาแบบ assertive diplomatic style (เช่น “จงใจละเมิด”, “ไม่มีมูล”, “น่าผิดหวังอย่างยิ่ง”)
2. จุดแข็งที่โดดเด่นของถ้อยแถลงนี้
A. สร้าง “นโยบายชัดเจน” ต่อสายตาโลก
• ไทย ไม่ปฏิเสธความร่วมมือในอดีตกับกัมพูชา
• แต่เน้นว่า “ความอดทนมีขีดจำกัด” และไทยจำเป็นต้องป้องกันตนเองอย่างชอบธรรม
B. ใช้ “พยาน–หลักฐาน–วันเวลา” อย่างชัดเจน
• รายงานเหตุการณ์ 28 พ.ค. / 16–23 ก.ค. / 24 ก.ค. ตามลำดับ
• ยกตัวอย่างรายชื่อจังหวัด โรงพยาบาลที่ถูกโจมตี พร้อมตัวเลขผู้เสียชีวิต
C. หักล้างข้อกล่าวหาได้แบบ “ตรงจุด–ไม่บิดเบือน”
• ชี้แจงว่ากระสุนไม่อาจกระทบ “ปราสาทพระวิหาร” ได้ตามวิถีการยิงจริง
• โต้แย้งว่ากัมพูชากำลัง “บิดเบือนข้อเท็จจริง” เพื่อสร้างความชอบธรรมในเวทีโลก
3. จุดที่กลายเป็นการ “ตอกกลับ” เชิงยุทธศาสตร์
A. การเปิดโปง “ความไม่สุจริตของกัมพูชา”:
“เราหวังอย่างจริงใจว่ากัมพูชาจะกระทำด้วยความสุจริต…”
• เป็นการสื่อสารทางการทูตที่ทรงพลังมาก → ชี้ว่าอีกฝ่าย “ไร้ความจริงใจ” โดยไม่ต้องใช้คำว่า liar ตรงๆ
B. การชี้ว่ากัมพูชา “ทำให้ปัญหาเป็นสากล”:
“พยายามทำให้ปัญหาเป็นสากลเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของตนเอง”
• ถือเป็นการ “ตีความเชิงเจตนา” → ใส่แว่นการเมืองเข้าไป ทำให้ UN ต้องคิดว่า ใครกันแน่ที่พยายามใช้ UNSC เป็นเวทีหาเสียง?
4. ผลเชิงยุทธศาสตร์ในเวทีโลก
ด้านผลลัพธ์ที่เป็นไปได้
– ภาพลักษณ์ไทย สร้างความน่าเชื่อถือสูงในเวที UN ว่าไทยเป็นฝ่าย “ผู้ถูกกระทำ” และ “ไม่เลือกใช้ความรุนแรงก่อน”
– แรงกดดันต่อกัมพูชา UNSC จะถูกผลักให้เปิดการสอบสวน–ตรวจสอบข้อเท็จจริง เช่น กรณีกับระเบิด, การโจมตีพลเรือน
ผลกระทบต่อ ASEAN
– ประเทศอื่นในอาเซียนอาจต้อง “เลือกข้างโดยไม่พูด” → ส่งสัญญาณว่าไทยยึดหลักอาเซียนร่วมอย่างเต็มที่
จุดแข็งทาง soft power
ถ้อยแถลงนี้สร้างแต้มบวกให้ไทยในสายตาประเทศตะวันตกและ NGO ด้านสิทธิมนุษยชน
5. ถ้อยแถลงนี้สมควรถูกสื่อสารต่อสาธารณะในไทยและโลกอย่างไร?
• ตัดคลิป Highlight 3 นาที ของคำว่า:
“อย่ามองข้ามไป” (Don’t look away.)
พร้อมภาพหญิงและลูก 3 ที่เสียชีวิต — เพื่อกระตุ้น emotional truth
• ทำ infographic เปรียบเทียบ “ใครพูดอะไร vs ใครทำอะไร”
→ สื่อสารความจริงแบบชาญฉลาด ไม่เป็น propaganda
สรุปความคิดเห็นของเข็มทิศ:
นี่คือถ้อยแถลงระดับโลกที่ “เปิดเกม” ทางการทูตได้สง่างามและเด็ดขาดที่สุดของไทยในรอบทศวรรษ
หากใช้เป็นฐานในการเจรจา–ดึงสื่อสากล–สร้างความเข้าใจใน UN อย่างต่อเนื่อง จะทำให้ไทยไม่เพียง “ปกป้องตัวเอง” แต่ยัง “นำเสนอสันติภาพ” อย่างมีเกียรติ

