ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง และนายชลัฐ รัชกิจประการ สส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย แถลงถึงมติพรรคภูมิใจไทย ที่เตรียมขอหารือพรรคฝ่ายค้าน ขอสภาผู้แทนราษฎร เปิดการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เกี่ยวกับการรับมือภาษีทรัมป์ ของรัฐบาล
นายชลัฐ กล่าวว่า สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ตนได้ตั้งกระทู้ถาม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สิ่งที่เรียกร้องหรือวอนขอ ต่อประชาชน ผู้ประกอบการไทย ที่ตอนนี้ไม่มีทิศทาง หรือไม่รู้ว่าจะตั้งรับอย่างไร หลังจากนี้ที่นายพิชัย ได้ไปต่อรองเจรจาภาษีสหรัฐอเมริกาในวันพฤหัสที่ผ่านมา จนมาถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้มีการชี้แจงต่อสื่อมวลชน และประชาชน ว่าสุดท้ายประเทศไทยต้องรับมืออย่างไร จะแบกรับอย่างไร และรัฐบาลจะเยียวยาอย่างไร
ขณะที่ นายภราดร ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยมีความกังวล และเป็นห่วงใยในสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในวันนี้ และดูเหมือนคนไทยถูกปิดหูปิดตา และไม่รู้อะไรเลย กับสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอีก 8 วันข้างหน้านับจากนี้ คือวันที่ 1 สิงหาคม ที่เกณฑ์ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ถึง 36% กำลังจะมีผลบังคับใช้ แน่นอนว่าจะมีผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศไทย และสิ่งที่เรามีความเป็นกังวลอยู่คือ ในกรณีที่รัฐบาลกำลังเจรจากับสหรัฐฯ อยู่นั้น หากเจรจาสำเร็จ หมายความว่า เราพยายามที่จะขอให้สหรัฐฯ ลดเพดานภาษีลงจาก 36% เหลือเท่าไหร่ก็แล้วแต่ อาจจะเหลือเท่าเวียดนาม 20% แม้ว่าอาจจะได้ผลดี และเป็นสิ่งที่ผู้ส่งออกกำลังรออยู่ แต่ในทางกลับกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การลดเพดานภาษีหากว่าจะเกิดขึ้น เขาเอาผลประโยชน์เงื่อนไขใด ๆ ไปเจรจากับสหรัฐฯบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เรากังวลมากที่สุด โดยเฉพาะภาคการเกษตรกลัวจะลดเพดานภาษีนำเข้าสินค้าเกษตร เหลือ 0% ทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่ตามมาจะกระทบกับเกษตรกรไทยที่ถือเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เช่น ด้านปศุสัตว์ อาหารสัตว์ ถั่วเหลือง ข้าวโพด เนื้อวัว หรือสินค้าเกษตรด้านอื่น รวมถึงมีความกังวลว่าอาจจะเสียอธิปไตยบางส่วน ซึ่งสังคมไทยรับไม่ได้ เพราะฉะนั้นรัฐบาลจำเป็นที่จะต้องออกมาชี้แจงกับสังคมผ่านสภาฯ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ รับทราบและเตรียมตัวรับมือ
นายภราดร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โดยการหารือกับพรรคแกนนำฝ่ายค้านในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค. 68) รวมถึงสมาชิกฝ่ายค้านพรรคอื่น ว่า พรรคภูมิใจไทยมีมติที่จะยื่นญัตติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ขอให้สภาฯ ได้เปิดอภิปรายดังกล่าว ซึ่งต้องใช้เสียงหนึ่งใน 10 ของสภาผู้แทนราษฎร หรือ 50 คนขึ้นไป
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องให้รัฐบาลเปิดการอภิปรายก่อนวันที่ 1 สิงหาคม หรือไม่ นั้น นายภราดร ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย ตอบไม่ได้ แต่จะพยามเร่งหารือกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อยื่นญัตติดังกล่าวให้เร็วที่สุด ส่วนขั้นตอนการบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องของรัฐมนตรีในการหาเวลา และให้ความสำคัญมาตอบกับสภาฯ แต่เราขอเรียกร้องว่าเรื่องนี้ รอช้าไม่ได้ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นประโยชน์กับสภาฯ และประชาชนเพื่อให้เขาได้เตรียมตัว และถ้าหากท่านเห็นความสำคัญก็ควรจะรีบตอบรับเพื่อให้เปิดสภาฯ อภิปรายตามมาตรา 152 ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม นี้
