“กรมทะเล” ร่วมกับเครือข่าย ตรวจสุขภาพ-เสริมวิตามิน ก่อนปล่อย “เต่าเป้แดง” ลงอันดามัน

468

ที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) วันที่ 22 ก.ค. – นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดี ทช. กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 20-21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์อุทยานใต้ทะเลจุฬาภรณ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช อาสาสมัครนักวิทยาศาสตร์พลเมือง และโรงแรมพูลแมน ภูเก็ต พันวา บีชรีสอร์ท จำนวน 30 คน ร่วมกันตรวจสุขภาพเต่าทะเลในถิ่นที่อยู่อาศัย ณ อ่าวตังเขน อ.เมือง จ.ภูเก็ต

นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า จากการตรวจสุขภาพเต่าตนุเพศเมีย จำนวน 4 ตัว แบ่งเป็น โตเต็มวัย 2 ตัว และยังไม่โตเต็มวัย 2 ตัว โดยการตรวจสุขภาพภายนอก ประเมินความสมบูรณ์ของร่างกาย เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อวิเคราะห์ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด และค่าเคมีของเลือด อัลตราซาวด์ วัดความดันตา ประเมินความสมบูรณ์เพศ ประเมินฮอร์โมน ความเครียด พยาธิ การสะสมโลหะหนัก เก็บตัวอย่างเพื่อวิเคราะห์พันธุกรรม และการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์รายตัว ผลการตรวจสุขภาพพบความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก

ทั้งนี้ สัตวแพทย์ได้ทำการให้วิตามินบำรุงสุขภาพและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติโดยมีการติดเครื่องติดตามเต่าทะเล (Satellite tracking and Soundscape) กับเต่าแม่พันธุ์จำนวน 2 ตัว เพื่อประเมินจำนวนประชากรของเต่าทะเลในพื้นที่ รวมถึงให้ทราบถึงเส้นทางการเดินทางของเต่าทะเลและบันทึกเสียงสัตว์ทะเล พะยูน และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ แล้วส่งข้อมูลผ่านทางสัญญาณดาวเทียม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามและจะดำเนินงานในห้องปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์ผลตรวจตัวอย่างต่อไป

ทั้งนี้ “เต่าเป้แดง” เป็นเต่าตนุเพศผู้ น้ำหนักกว่า 50 กก. คาดว่าอายุประมาณ 40 ปี (ขณะนั้น) มาเกยหาดที่ จ.ภูเก็ต ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสเมื่อปี 2560 เจ้าหน้าที่กรมทะเลจึงได้นำตัวไปรักษาพยาบาลที่ ศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร จ.ภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลารักษาพยาบาลอยู่นานถึง 8 ปี จนมั่นใจว่าเต่าตนุตัวนี้สามารถกลับไปใช้ชีวิตในธรรมชาติได้ จึงได้ติดตั้งอุปกรณ์ติดตามตัวจากทีมวิจัยญี่ปุ่นซึ่งมีลักษณะเหมือนเป้สีแดงแต่มีน้ำหนักเบา ไม่รบกวนการใช้ชีวิต พร้อมตั้งชื่อว่า “ปู่เต่าเป้แดง” ก่อนจะปล่อยกลับคืนสู่อันดามันเมื่อ 8 มี.ค. 2568 ซึ่งคุณปู่ทำให้ทีมวิจัยทึ่งหลังจากใช้เวลาเพียง 5 วันก็เดินทางกว่า 200 กม. กลับถึงบ้านที่เกาะสิมิลันโดยสวัสดิภาพ