“เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ทั่วทั้งผืนป่าของประเทศไทยก็เริ่มผลิดอกออกใบอีกครั้ง และหนึ่งในความงามที่โดดเด่นสะดุดตาในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาคงหนีไม่พ้น “ดอกเข้าพรรษา” หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “ดอกหงส์เหิน” พรรณไม้พื้นถิ่นที่ชูช่ออวดความงามต้อนรับพุทธศาสนิกชนสู่ห้วงเวลาแห่งการทำบุญ“
ดอกเข้าพรรษา จัดอยู่ในวงศ์ขิงข่า (Zingiberaceae) มีลักษณะพิเศษคือเป็น พืชหัวประเภทเหง้า คล้ายกระชายที่ฝังตัวอยู่ใต้ดิน กาบใบจะเรียงตัวกันอย่างหนาแน่น ก่อตัวเป็น ลำต้นเทียม ที่สูงชะลูดประมาณ 30-70 เซนติเมตร แลดูสง่างาม ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปหอก ออกเรียงสลับกันเป็นสองแถว ซ้าย-ขวา ให้ความรู้สึกเป็นระเบียบแต่แฝงด้วยความอ่อนช้อย
ความพิเศษของดอกเข้าพรรษาคือการออกดอกเพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น โดยช่อดอกจะแทงออกมาจากยอดของลำต้นเทียม มีความยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร สิ่งที่ทำให้ดอกเข้าพรรษามีความงดงามเป็นเอกลักษณ์คือ ก้านดอกที่ย้อยเรียงตัวกันอยู่โดยรอบ ช่อดอก แต่ละก้านประกอบด้วย ดอกจริง 1-3 ดอก ที่มีสีเหลืองอร่าม ลักษณะคล้ายกับ ตัวหงส์ที่กำลังเหินบิน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “ดอกหงส์เหิน” นั่นเอง
นอกจากนี้ ยังมีกลีบประดับขนาดใหญ่ เรียงรายตามช่อดอกตั้งแต่โคนไปจนถึงปลาย โดยกลีบประดับเหล่านี้มีให้เห็นหลากหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็น สีขาว สีม่วง สีเขียว หรือแม้แต่สีแดง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ดอกไม้ประจำเทศกาล…สัญลักษณ์แห่งความศรัทธา
ด้วยความที่ดอกเข้าพรรษาจะออกดอกในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาพอดี จึงไม่น่าแปลกใจที่พรรณไม้ชนิดนี้จะกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความศรัทธาและความงดงามที่คู่ควรกับการนำไปบูชาพระ โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ดอกเข้าพรรษาจะบานสะพรั่งอวดโฉมความงามให้นักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนได้ชื่นชม เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของธรรมชาติที่รอให้คุณมาสัมผัส
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ – Khao Yai National Park
