อช.แก่งกระจานลุยสอบ! พบสวมสิทธิ์ที่ดิน ม.64 ประกอบธุรกิจโรงแรมผิดกฎหมาย

538

2 กรกฎาคม 2568 – อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยนายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานฯ เผยผลการตรวจสอบกรณีสวมสิทธิ์ที่ดินตามมาตรา 64 ในเขตอุทยานฯ หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการซื้อขายที่ดินและดำเนินธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน และฝ่ายปกครองอำเภอแก่งกระจาน นำโดยนายคณิน ทองก้อน ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ต้องสงสัยที่บ้านเลขที่ 195 หมู่ 3 ต.สองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี การตรวจสอบครั้งนี้เกิดขึ้นจากรายงานของผู้หวังดีที่แจ้งว่ามีการซื้อขายที่ดินในเขตอุทยานฯ ซึ่งเดิมเป็นที่ดินที่นางสมพรเคยแจ้งสำรวจไว้ตั้งแต่ปี 2541 เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ 2 งาน 31 ตารางวา

จากการตรวจสอบพบว่า นายจอห์นรังสรรค์ อายุ 58 ปี เป็นผู้ครอบครองพื้นที่ โดยย้ายเข้ามาอยู่ตั้งแต่ปี 2560 หลังนางสมพร ซึ่งเป็นผู้แจ้งสำรวจเดิม ได้ย้ายทะเบียนบ้านออกไปอยู่กับลูกในต่างจังหวัดในปี 2561 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่านางสมพรเคยอาศัยอยู่ที่บ้านดังกล่าวตั้งแต่ปี 2536

ล่าสุดพื้นที่ดังกล่าวถูกใช้เป็นที่พักอาศัยและลานกางเต็นท์ ภายใต้ชื่อ “นกเงือกแคมป์ปิ้ง – แก่งกระจาน” มีสิ่งปลูกสร้างกระจายอยู่ทั่วบริเวณถึง 18 รายการ และมีการโปรโมทธุรกิจโรงแรมผ่านทางเฟซบุ๊กอย่างโจ่งแจ้ง นายจอห์นรังสรรค์อ้างว่าได้รับอนุญาตด้วยวาจาจากนางสมพรเมื่อ 10 ปีก่อน เนื่องจากนางสมพรชราภาพ แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานการเสียภาษีบำรุงท้องที่ของแปลงที่ดินนี้เลย นอกจากนี้ ภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลังยังเผยให้เห็นว่ามีการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ปรับพื้นที่ ขุดภูเขา และก่อสร้างอาคารที่พักในลักษณะนายทุนในช่วงปี 2563-2564

คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า การครอบครองที่ดินของนายจอห์นรังสรรค์ขัดต่อเงื่อนไขมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 จึงเตรียมแจ้ง 2 ข้อหา ได้แก่


1.ละเมิด พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ในข้อหา “เข้าไปดำเนินกิจการใด ๆ เพื่อหาผลประโยชน์ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ละเมิด พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. 2547 ในข้อหา “ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่สำคัญของการละเมิดกฎหมายอุทยานแห่งชาติ และการสวมสิทธิ์ที่ดินมาตรา 64 ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นการปรับพื้นที่และก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ที่พบจากภาพถ่ายทางอากาศเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปอย่างเด็ดขาดต่อไป

    อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน – Kaeng Krachan National Park