“ คลิปหลังไมค์ที่สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาปล่อยออกมากลายเป็นเหยื่ออันโอชะที่กลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณหยิบเป็นประเด็นเคลื่อนไหวด้วยวาทกรรมขายชาติ เรียกแนวร่วมขาประจำที่ได้รับอานิสงค์เสวยสุขทุกครั้งหลังก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลจากตระกูลชินวัตร“

ถ้าเช็คชื่อแกนนำร่วมกันแถลงข่าวที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ก่อนมีมติก่อม็อบที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันที่ 28 มิถุนายน จะพบว่าแต่ละคนล้วนได้รับตำแหน่งและผลประโยชน์ที่เผด็จทหารโยนให้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กลายร่างมาเป็นสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ เลขานุการรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรี เป็นต้น
ไม่เว้นแม้แต่สายสื่อมวลชน หลายคนตั้งบริษัทรับงานโฆษณาให้รัฐบาลเผด็จการแบบต่อเนื่องยาวนานกว่า 8 ปี บางคนแตกไลน์ตั้งสำนักข่าวของตัวเอง ได้เงินสนับสนุนจากกลุ่มทุนที่ได้ประโยชน์จากรัฐบาลเผด็จการทหาร บางคนเข้าไปรับตำแหน่งต่างๆทั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สมาชิกสภาปฏิรูปและกรรมการคณะต่างๆรับผลประโยชน์กันอย่างอิ่มหมีพีมัน
จุดยืนของการเคลื่อนไหวปากอ้างว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย แต่กลับกดดันให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออก แทนที่จะกดดันให้ยุบสภาฯเลือกตั้งใหม่ให้ประชาชนเป็นผู้ชี้ชะตาประเทศ
ถ้าวิเคราะห์ตามเกมนี้พอมองได้ว่าหากจี้ให้ยุบสภาฯบรรดาแกนนำแทบจะไม่ได้รับผลตอบแทนอะไรเลย เพราะส่วนใหญ่เคยลงเลือกตั้งทั้งสส.และ สว. บางกลุ่มเคยตั้งพรรค ต่างพ่ายแบบหมดรูป แต่พอเผด็จทหารครองเมืองเลียท็อปบูทครั้งสองครั้งได้เป็นสว.ลากตั้งสมใจแถมลากยาวจนถึงขั้นเข้าข่ายเสพติดอำนาจไปแล้ว
ที่สำคัญหากให้ยุบสภาพวกอนุรักษ์นิยมบางกลุ่มทั้งที่หนุนม็อบและหนุนรัฐบาลปัจจุบันคงไม่ยอมเพราะต่างประเมินกันแล้วว่าเลือกตั้งจังหวะนี้พ่ายให้กับพรรคประชาชนแน่นอน คอการเมืองบางคนถึงขั้นวิเคราะห์ว่าพรรคประชาชนอาจแลนด์สไลด์ก็เป็นได้ เพราะคนรุ่นใหม่เหม็นเบื่อกับพวกแกนนำและนักการเมืองซีกรัฐบาลเต็มทนแล้ว
ดังนั้นเมื่อจับสถานการณ์ต่างๆก่อนที่ม็อบจะรวมกันเคลื่อนไหวหยั่งกระแสว่าจุดติดหรือไม่จะพบเหตุการณ์ แบบเดจาวู ก่อนที่เผด็จทหารจะลากรถถังยึดอำนาจ ยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร มีม็อบพันธมิตรประชาธิปไตยเคลื่อนไหวจี้ให้นายทักษิณ ลาออกข้อหาโกงชาติ
ช่วงที่พันธมิตรฯเคลื่อนไหว เกิดลอบวางระเบิดหลายจุดตามเมืองท่องเที่ยวแต่ระเบิดด้าน และในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดเหตุค่อนข้างถี่ จะเป็นฝีมือของใครนั้นสุดคาดเดา มาพร้อมการเคลื่อนไหวของนักวิชาการบางกลุ่มรวมถึงนักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ อ้างรัฐธรรมนูญมาตรา 7 ขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ในที่สุดนำไปสู้การรัฐประหาร มีเงื่อนไขแก้ปัญหา 3 จังหวัดชานแดนภาคใต้รวมอยู่ด้วย
ยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลุ่มกปปส. ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำเคลื่อนไหวทำนองเดียวกันให้นายกรัฐมนตรีลาออก ไม่เอายุบสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์แก้เกมด้วยการยุบสภาถูกพวก กปปส.ไปขัดขวางเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์บอยคอต และขอนายกฯพระราชทานเช่นกัน จังหวะนั้นเกิดเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เกิดถี่จนผิดสังเกต แต่ครั้งนี้มีม็อบหนุนรัฐบาลด้วย
พอสถานการณ์เริ่มสุกงอม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกก่อรัฐประหาร ครองอำนาจยาวนานกว่า 8 ปี โดยอ้างเงื่อนไขแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัด รวมอยู่ด้วย ส่วนแกนนำม็อบรวมถึงพวกลิ่วล้อม็อบ ต่างกระโดดงับตำแหน่งที่เผด็จทหารโยนให้อย่างชื่นมื่นและปากมันไปตามๆกัน
มาบัดนี้สถานการณ์ต่างๆก่อนที่ม็อบจะรวมตัวกันวันนี้(วันที่ 28 มิถุนายน )เกิดขึ้นคล้ายๆกันไม่ว่าจะเป็นเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่เกิดถี่มาก เหตุโจรใต้ขนระเบิดจากปัตตานีไปวางสนามบินภูเก็ต สถานที่ท่องเที่ยวในภูเก็ตหลายจุด รวมถึงพื้นที่กระบี่
มีการตั้งข้อสังเกตในแผนปฏิบัติการว่าคนร้ายหวังสร้างสถานการณ์ไม่ได้หวังมุ่งเอาชีวิต แต่มุ่งดิสเครดิตรัฐบาล เพราะระเบิดที่กู้ได้อนุภาพทำลายล้างไม่สูงนัก และรถที่ใช้ขนวัตถุระเบิดกลับใช้ป้ายทะเบียนที่สังเกตง่ายนั่นคือป้ายทะเบียนจังหวัดสุรินทร์ จนมีเสียงนินทาว่ามีบิ๊กเนมการเมืองรับรู้ด้วยหรือไม่
จังหวะเดียวกันมีนักวิชาการ นักวิจัย และอาจารย์มหาวิทยาลัย 55 คนลงชื่อถวายฎีกา เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยแก้ไขปัญหาวิกฤติบ้านเมือง และนักวิชาการกลุ่มนี้บางคนประกาศเจตนารมณ์ร่วมม็อบวันที่ 28 มิถุนายนนี้ด้วย
นี่คือ เดจาวู ที่มักจะนำไปสู่การรัฐประหาร ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำทั้งสองเหตุการณ์จนนำพาประเทศถอยหลังเข้าคลองแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ครั้งนี้จะซ้ำรอยเดิมทหารก่อรัฐประหารหรือใช้แนวทางนิติสงครามหรือจบลงแบบ น.ส.แพทองธาร นั่งยาวจนครบเทอม ล้วนต้องติดตาม ที่มองข้ามไม่ได้เพราะเป็นปัจจัยในการชี้ขาดของการเปลี่ยนแปลงนั่นคือม็อบมีเส้นหรือไม่ ?!!


