เปิดตำนาน “เอื้องเศวตจูงนาง” ความงามสีขาวบริสุทธิ์ของกล้วยไม้ที่เคยหายสาบสูญ

763

“เอื้องเศวตจูงนาง” หรือ Thunia pulchra Rchb. f. กล้วยไม้ป่าหายากของไทยชนิดนี้ เคยเชื่อว่าอาจสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติแล้ว หลังจากที่ไม่มีรายงานการค้นพบมานานหลายสิบปี แต่ปัจจุบันได้มีการค้นพบอีกครั้ง ทำให้เราได้ชื่นชมความงามของกล้วยไม้ชนิดนี้กันอีกครั้ง

เอื้องเศวตจูงนางมักขึ้นตามต้นไม้ในป่าผลัดใบ ป่าดิบแล้งริมลำธาร และบริเวณยอดเขาที่เปิดโล่งบนภูเขาหินทราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบเทือกเขาพนมดงรัก นอกจากนี้ยังมีการรายงานการค้นพบเพิ่มเติมในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครนายก โดยคุณไพรวัลย์ ศรีสม และคุณเพชร ตรีเพชรและคณะ

ชื่อ “เอื้องเศวตจูงนาง” มาจากการผสมผสานของสองคำ : “เศวต” หมายถึง สีขาว ซึ่งสื่อถึงสีของกลีบเลี้ยงและกลีบดอกของกล้วยไม้ชนิดนี้  ส่วน “จูงนาง” มาจากลักษณะของกลีบปากที่มีรูปร่างคล้ายกับว่านจูงนาง ซึ่งเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งในประเทศไทย

ส่วนชื่อวิทยาศาสตร์ “pulchra” มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน แปลว่า สวยงาม, ทรงคุณค่า, หรือยอดเยี่ยม ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามของกล้วยไม้ชนิดนี้ได้อย่างดี

ลักษณะทั่วไปของเอื้องเศวตจูงนาง

เอื้องเศวตจูงนางเป็นกล้วยไม้ที่สามารถขึ้นได้ทั้งบนต้นไม้และบนหิน มีลักษณะเด่น ดังนี้  ลำลูกกล้วย: อวบยาวประมาณ 50-100 เซนติเมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.2 เซนติเมตร, ใบ: มีจำนวนมาก เรียงสลับ รูปแถบถึงรูปใบหอก กว้าง 2.5-4.5 เซนติเมตร ยาว 15-30 เซนติเมตร ปลายแหลมถึงเรียวแหลม และแผ่นใบด้านล่างมีนวล

ช่อดอก: ออกที่ส่วนปลายของลำลูกกล้วย ห้อยลงมายาว 10-15 เซนติเมตร แต่ละช่อมีดอก 6-10 ดอก ดอก มีก้านดอกยาวเรียว กลีบเลี้ยง: รูปใบหอกถึงรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ปลายแหลม สีขาวกลีบดอก: คล้ายกลีบเลี้ยงแต่ค่อนข้างแคบกว่า กลีบปาก: สีขาว ด้านในมีสันสีน้ำตาลอมแดงอยู่ตรงกลางหลายสัน สลับกับแถบสีเหลืองถึงสีแดง ขอบกลีบหยักเป็นซี่ฟันถี่ถึงเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอเขตการกระจายพันธุ์

ในประเทศไทยพบเอื้องเศวตจูงนางได้ทางภาคตะวันออก (นครราชสีมา, อุบลราชธานี) และภาคตะวันออกเฉียงใต้ (ตราด) นอกจากนี้ยังพบในต่างประเทศอย่างพม่าและเวียดนามอีกด้วย

ขอขอบคุณภาพถ่ายอันงดงามจาก คุณไพรวัลย์ ศรีสม (นักวิจัยอิสระ) และคุณจิรายุทธ บุญปก (เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย) รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน

ที่มา: หอพรรณไม้ Forest Herbarium – BKF