“แค่ได้ยืนท่ามกลางทุ่งหงอนนาคครั้งหนึ่ง… ก็เหมือนหัวใจได้กลับบ้าน”

ความงามแรกของฤดูฝนได้ปรากฏขึ้นที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ดอกหงอนนาคสีม่วงอ่อนเริ่มเบ่งบานละลานตา บน “ลานสนภูสอยดาว” จุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางผู้หลงรักธรรมชาติและความงามเหนือคำบรรยาย

ลานสนบนยอดภูในยามเช้า ถูกห่มคลุมด้วยม่านหมอกขาวบาง พร้อมกลิ่นอายของความสดชื่นที่โชยผ่านทุกลมหายใจ ขณะที่ “นางเอกของขุนเขา” อย่าง ดอกหงอนนาค ต่างพากันอวดโฉมเบ่งบานเร็วกว่าทุกปี ราวกับจะบอกนักท่องเที่ยวว่า… “ได้เวลาออกเดินทางแล้ว”
ลองนึกภาพการเดินท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวขจี ต้นสนเรียงรายเป็นแนวยาว กับทุ่งดอกหงอนนาคสีม่วงอมฟ้ากว้างสุดสายตา ไอหมอกลอยเอื่อยในยามเช้า ทุกย่างก้าวบนทางเดินธรรมชาติราวกับเดินอยู่ในความฝัน
ทำความรู้จัก “ดอกหงอนนาค”

ดอกหงอนนาค (ชื่อวิทยาศาสตร์ Murdannia giganteum) เป็นพืชล้มลุกที่ขึ้นในป่าดิบแล้ง และป่าสนเขาสูง มักออกดอกในช่วงฤดูฝน (กรกฎาคม – กันยายน) โดยจะบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วลานสนเมื่อได้รับแสงแดดยามเช้า สีม่วงอ่อนของกลีบดอกกับเส้นเกสรสีเหลืองเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
ตั้งอยู่บนรอยต่อระหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์ และพิษณุโลก บริเวณแนวเทือกเขาหลวงพระบาง ติดชายแดนไทย-ลาว
จุดเด่น: ลานสนสามใบกว้างใหญ่, น้ำตกภูสอยดาว 5 ชั้น, ดอกไม้ป่าหายาก, เส้นทางเดินป่าท้าทาย
ระยะทางเดินป่า: ประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 4-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย
ฤดูกาลท่องเที่ยว: เปิดให้ขึ้นลานสนปีละครั้งในช่วง 1 กรกฎาคม – 15 ตุลาคม
เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนพิชิตยอดภู

การพิชิตภูสอยดาวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็คุ้มค่าทุกย่างก้าว ควรฟิตร่างกายให้พร้อม เพราะเส้นทางมีความชันและเหนื่อยระดับ “หนักแต่ไม่เกินใจ” และเตรียมเสื้อกันฝน รองเท้าเดินป่าดีๆ ไฟฉาย และถุงกันน้ำ นักท่องเที่ยวต้อง จองคิวล่วงหน้า ผ่านแอปฯ QueQ หรือเว็บไซต์ของอุทยานฯงดใช้โฟมและพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวตามนโยบายของกรมอุทยานฯ
ปีนี้ภูสอยดาวพร้อมเปิดต้อนรับนักเดินทางสายลุยอีกครั้ง พร้อมดอกไม้ป่าผู้อ่อนหวานแต่ทรงพลังอย่าง “ดอกหงอนนาค” รอให้คุณไปพบกันกลางม่านหมอกและเสียงลมบนยอดเขา
ขอบคุณภาพโดย: คุณนเรศ วิเศษพันธ์

