เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) บุกตรวจค้นบริษัทต้องสงสัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา และระยอง หลังพบพฤติการณ์นำคนไทยเป็นนอมินีถือหุ้นแทนชาวจีน เพื่อเลี่ยงกฎหมายว่าด้วยธุรกิจของคนต่างด้าว พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 500 ล้านบาท
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบริษัทเป้าหมาย 3 แห่ง ประกอบด้วย สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ สาขานวนคร จ.พระนครศรีอยุธยา และสาขาระยอง จ.ระยอง โดยตรวจยึดเอกสารสำคัญ เช่น หนังสือจัดตั้งบริษัท รายการสต๊อกสินค้า เอกสารนำเข้าสินค้า ตราประทับบริษัท รวมกว่า 20 รายการ
ทั้งนี้ มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 5 ราย แบ่งเป็นนิติบุคคล 2 ราย (จีน 1 ไทย 1) และบุคคลธรรมดา 3 ราย ได้แก่ นายเหวย (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี สัญชาติจีน,นางสาวปุณณดา (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี สัญชาติไทย และ นางสาวณัฐรดา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี สัญชาติไทย
โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จากพฤติการณ์สืบสวนพบว่า กลุ่มทุนจีนใช้วิธีตั้งบริษัทผ่านตัวแทนคนไทยในลักษณะ “นอมินี” เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้าและให้เช่าเครื่องจักรหนัก อาทิ รถเครน รถยก กว่า 250 คัน ทั้งยังมีพฤติการณ์โฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย และขยายสาขาในพื้นที่ต่างจังหวัด
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ถือหุ้นชาวไทยทั้ง 2 รายเป็นเพียงพนักงานบริษัท ไม่มีบทบาทบริหาร และไม่มีการลงทุนจริง ขณะที่เงินทุนเริ่มต้นกว่า 50 ล้านบาท และพบเงินหมุนเวียนมากกว่า 500 ล้านบาท โอนมาจากกลุ่มทุนจีนโดยตรง
นอกจากนี้ ยังพบพฤติการณ์ที่อาจเข้าข่าย หลบเลี่ยงภาษี โดยมีการใช้คิวอาร์โค้ดของพนักงานในการรับเงินค่าเช่าแทนบัญชีบริษัท เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนประชาชนว่า การให้ความช่วยเหลือหรือเป็นตัวแทนถือหุ้นแทนบุคคลต่างชาติ อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ซึ่งจะมีความผิดทั้งในส่วนของนิติบุคคลและผู้เกี่ยวข้อง
