แฉตัวอย่าง”ปล่อยขาด”ล้วน”คดีคนดัง-ผู้มีอิทธิพล”เอี่ยวรอยเปื้อนที่”ตร.-อัยการ”ไม่เคยลบ

1432


        หากไม่มีข่าวปัญหาขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา  ข่าวความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทยปมแย่งกระทรวงมหาดไทย และคดีฮั้วเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสมาชิกที่ออกหมายเรียกนักการเมืองดังไปรับทราบข้อกล่าวหา เชื่อว่าข่าว น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี หรือมินนี่ เจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์ ถูกปล่อยตัวเพราะตำรวจและอัยการ ทำสำนวนไม่ทันส่งฟ้อง คงจะเป็นข่าวดังครึกโครมทั้งสื่อกระแสหลักและสื่อโซเซียลแน่นอน

        หลายสำนักข่าวอาจทำสกู๊ปย้อนรอยคดีแบบเจาะลึกออกมานำเสนอ เพราะคดีนี้เกี่ยวพันไปถึงอดีตตำรวจระดับ พล.ต.อ.ยันชั้นประทวน


         คดีนี้เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนมีนาคม สื่อทุกสำนักและสื่อโซเซียล นำเสนอเป็นข่าวใหญ่ มี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ผบช.สอท.) พร้อมรองผบช.ร่วมกันแถลงผลการจับกุม มีการระดมกำลังตำรวจเข้าตรวจค้นถึง 13 จุด ทั้งที่ จ.เลย และกรุงเทพฯ จับกุม น.ส.ธันยนันท์ ฉายาสาวน้อยร้อยเว็บ พร้อมพวกกว่า 10 คน มีเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ถึง 7 เว็บ ยึดของกลางจำนวนมาก มีความผิดหลายข้อหาทั้งชักชวนเล่นพนันและฟอกเงิน  หลังจับกุมตำรวจตรวจสอบมือถือของ น.ส.ธันยานันท์ พบว่าแชทคุยกับตำรวจมียศใหญ่เพื่อขอให้ช่วยเหลือ

     ช่วงที่พนักงานสอบสวนกำลังทำสำนวนพบว่าเว็บพนันของมินนี่  พบว่ามีตำรวจระดับ พ.ต.อ.มีเอี่ยวอย่างน้อย 2 นายและพบเส้นทางการโอนเงินไปบัญชีของ พล.ต.อ.และเครือญาติด้วย

    จังหวะนั้นแวดวงสีกากีต่างมั่นใจว่าคดีมินนี่เป็นสารตั้งต้นที่จะสาวไปถึงกลุ่มตำรวจใหญ่อย่างน้อย 6-7 คน เพราะมีการขยายผลบุกค้นบ้านตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนายพร้อมออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา  และต่างเชื่อว่าจะนำตัวผู้ต้องหาไปฟ้องศาลได้อย่างแน่นอน เพราะหลักฐานส่วนใหญ่เป็นเอกสารเกี่ยวกับโอนเงินแทบทั้งสิ้น

   ในช่วงที่พนักงานสอบสวนทำสำนวนส่งให้อัยการ ไม่ค่อยปรากฏข่าวผ่านสื่อมากนัก กระทั่งวันที่ 17 มิถุนายน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท. บอกว่าคดีน.ส.ธันยนันท์ กับพวกรวม 10 คน ยังไม่สามารถฟ้องได้ครบกำหนดขาดขัง ต้องปล่อยตัวไป พร้อมอธิบายว่าพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหากับพวกครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ผู้ต้องหาไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากศาล

  “พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทำความเห็นสมควรสั่งฟ้องไปยังอัยการช่วงฝากขังครั้งที่ 7 ทางอัยการเจ้าของสำนวนพิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการเดินบัญชีที่พนักงานสอบสวนปริ้นต์จากระบบอิเล็กทรอนิกส์ ยังไม่ได้สอบสวนธนาคารต้องสอบธนาคารเพิ่มรวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารกว่า 14 บัญชี คืนสำนวนให้พนักงานสอบสวนมาก่อนครบฝากขังครั้งสุดท้ายวันที่ 28 พฤษภาคม ประมาณ 2-3 วัน พนักงานสอบสวนไม่สามารถทำได้ทัน ทำให้อัยการไม่สามารถยื่นฟ้องได้ทัน ศาลจึงปล่อยน.ส.ธันยนันท์และพวกวันที่ 29 พฤษภาคม”พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ระบุและว่าเมื่อตำรวจสอบสวนเพิ่มเสร็จแล้วนำสำนวนส่งอัยการเมื่ออัยการสั่งฟ้องจะตามตัวผู้ต้องหานำส่งอัยการเพื่อฟ้องศาลต่อไป

   จากพฤติการณ์ดังกล่าวทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าระยะเวลา 84 วันกับพยานหลักฐานเอกสาร ตำรวจต้องมีอยู่ในมือก่อนจับกุมบางส่วนแล้วและหาหลักฐานเพิ่มอีกไม่มาก ทำไมถึงลากยาวไปถึงฝากขังครั้งที่ 7 ทั้งที่ควรจะส่งสำนวนให้อัยการได้อย่างน้อย 1 เดือน ก่อนครบ 84 วัน และประเด็นที่อัยการสั่งสอบเพิ่มน่าจะสอบตั้งแต่เริ่มต้นแล้วเพราะช่วงแถลงข่าวมีการเปิดเผยหลักฐานเกี่ยวบัญชีธนาคารด้วย

   ซึ่งข้อสงสัยเหล่านี้บวกกับข้อครหาที่มีให้เห็นบ่อยครั้งว่าคดีใดที่มีคนมีสี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักการเมือง หรือคดีที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมาก เกี่ยวโยงด้วย กระบวนการสอบสวนมักจะล่าช้า เพราะผลคดีจะไปเป็นองค์ประกอบสำคัญกับคดีที่บุคคลเหล่านั้นตกเป็นผู้ต้องหาด้วย หากผู้ต้องหาที่ปล่อยขาดหลบหนี คดีจะถูกลากยาวไปโดยปริยาย

  ปรากฏการณ์ลักษณะนี้มีตัวอย่างให้เห็นบ่อยครั้ง อาทิ ช่วงปี 2564 คดียาเสพติดในพื้นที่จังหวัดน่าน มีการจับกุมตัวการใหญ่พร้อมพวกรวม 7 คน ยึดทรัพย์กว่า 2,175 ล้านบาท อัยการส่งฟ้องคดีไม่ทันในระยะ 84 วัน ต้องปล่อยผู้ต้องหา จนเกิดข้อครหาว่าเรียกรับสินบน จนอัยการสูงสุดต้องสั่งให้อธิบดีอัยการภาค 5 ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

  หรือกรณีคดีนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ เจ้าพ่อนำมันเถื่อน  เกิดเหตุช่วง 3ปี ที่ผ่านมา ถูกตำรวจจับกุมและแถลงข่าวใหญ่โต ข้อหาค้าน้ำมันเถื่อนและฟอกเงิน มีการตั้งพนักงานสอบสวนระดับตร.ไปดำเนินการ เมื่อส่งสำนวนพร้อมผู้ต้องหาให้อัยการสั่งฟ้อง ปรากฏว่าอัยการสงขลามีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง จึงสั่งปล่อยตัว และก่อนหน้านี้เสี่ยโจ้ต้องคดีศาลพิพากษาจำคุก 1ป 6 เดือน ไม่ได้ส่งตัวไปรับโทษ ทางตำรวจชี้แจงว่าหาสำนวนไม่เจอ ต่อมาเจอสำนวนแต่ปล่อยตัวเสี่ยโจ้ไปเรียบร้อยแล้ว ตำรวจตามจับกุมกลับคว้าน้ำเหลว

  จากตัวอย่างทั้งคดีมินนี่ คดียาเสพติดและคดีเสี่ยโจ้  เปรียบเสมือนรอยเปื้อนที่สร้างความสกปรกให้กับองค์กรตำรวจและอัยการ เสมอมา โดยที่ผู้นำทั้งสององค์กรไม่ได้คิดหาแนวทางที่เช็ดรอยเปื้อนนี้ให้หมดไป หรืออาจเป็นเพราะว่าถ้าอุดช่องว่างนี้ไป จะทำให้การเอื้อประโยชน์ให้กับพวกมีอิทธิพลวงการต่างๆที่ต้องคดีลำบาก


   ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าคดีมินนี่ที่ถูกปล่อยขาด เพื่อเอื้อให้กับคดีที่ พล.ต.อ. พ.ต.อ. พ.ต.ท.และชั้นประทวน ตกเป็นผู้ต้องหาเกี่ยวพันกับเว็บพนันออนไลน์ของมินนี่ ด้วยการลากยาวออกไปหรือไม่ ?

   คงต้องฝาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ไขข้อสงสัยด้วย !!!