กรุงเทพฯ, วันที่ 9 มิ.ย. “ลอรี่” พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงในฐานะรองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล จากมูลนิธิคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเรียกร้องให้ใช้โอกาสที่เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อสร้างแนวคิดชาตินิยมแบบก้าวหน้า สอดคล้องกับสากล แทนที่ชาตินิยมแบบล้าหลัง ว่า นายปิยะบุตรโหนกระแสคนเชียร์กองทัพ อ้างว่านี่คือโอกาสการสร้าง “ชาตินิยมก้าวหน้า” ไม่ยึดโยงกับราชา ระบอบกษัตริย์ ซึ่งตนขอเรียกว่าเป็นตรรกะของพวก “ล้มล้างนิยมโหนชาติ”
นายพงษ์พล กล่าวว่า “ชาตินิยมไทย” ไม่เคยผูกยึดกับเชื้อชาติ ตามที่กล่าวหา หากแต่ผูกกับเจตจำนงร่วมในการเป็น “คนไทย” ขณะที่นายปิยบุตรพยายามแยก “ชาตินิยมแบบเสรีนิยม” ออกมาจากสิ่งที่ท่านมองว่าเป็น “ราชาชาตินิยม” หรือ “ชาตินิยมล้าหลัง” ด้วยการนำแนวคิดจาก นายเบเนดิกต์ แอนเดอร์สัน (อดีตนักวิชาการจาก ม.คอร์แนล) หรือ นายแอร์เนสต์ เรอนอง (อดีตนักวิชาการและนักประวัติศาสตร์ ชาวฝรั่งเศส)มาอธิบายว่า “ชาติเป็นเพียงจินตกรรม” แต่ในความเป็นจริง “ชาตินิยมไทย” โดยธรรมชาติแล้ว ไม่ได้เหยียดเชื้อชาติ ศาสนา หรือสีผิว แต่ยึดหลัก “สัญชาติไทย” และ “คุณงามความดี” เป็นที่ตั้ง
รองโฆษฏ พรรค รทสช. กล่าวว่า เรามีบุคคลต้นแบบจำนวนมากในประวัติศาสตร์ไทยที่มีเชื้อสายต่างชาติ ทั้งจีน แขก ฝรั่ง ที่อุทิศตนให้ชาติไทยจนได้รับพระราชทานนามสกุล เช่น บุนนาค, สิมะเสถียร, สุนทรเวช, ณรงค์เดช เป็นต้น การพยายามสร้างวาทกรรมใหม่ว่า “ชาตินิยมเดิม” เป็นชาตินิยมแบบเชื้อชาตินั้น เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์และสร้างความแตกแยกโดยไม่จำเป็น การพูดถึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ใช่การเหยียด หรือ exclusionary แต่คือ “รากแก้วของรัฐไทย”
“ที่คนไทยให้ความสำคัญกับ 3 สถาบันหลัก ไม่ใช่เพราะต้องการกดทับเสรีภาพหรือขวางโลกใหม่ แต่เพราะประวัติศาสตร์ชาติไทยพิสูจน์แล้วว่า “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” เป็นเสาหลักที่ประคับประคองประเทศให้รอดพ้นจากลัทธิล่าอาณานิคม ความแตกแยกภายใน และการรุกรานจากต่างชาติในหลายช่วงเวลา อาจารย์พยายามจะโยงแนวคิดเรื่องรัฐชาติ ไปสู่การล้มล้างระบบด้วยวาทกรรมแบบinterregnum (ระหว่างระบอบ) ซึ่งไม่ต่างจากมิชชานารี หรือ “นักเผยแผ่ลัทธิตะวันตก” ในสมัยจักรวรรดินิยม ที่เข้ามาล้มล้างความเชื่อ รากเหง้า วัฒนธรรม และการปกครองแบบไทย ด้วยการอ้างว่าเป็น ความคิดก้าวหน้า” นายพงษ์พล กล่าว
ทั้งนี้เขายืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการตีความคำว่า ‘ชาติ’ แต่จะไม่ยอมให้ใครแอบเปลี่ยนความหมายของชาติ เพื่อปูทางไปสู่การเปลี่ยนโครงสร้างของรัฐแบบไร้การยินยอมของประชาชน
“การรักชาติไม่ใช่เรื่องล้าหลัง และการปกป้องสถาบันหลักไม่ใช่เรื่องตกยุค แต่คือการรักษารากเหง้าของไทยให้มั่นคงในโลกที่เปลี่ยนไปเร็ว ช่วยกันรดน้ำพรวนดิน ขจัดปลวก ขจัดแมลงที่กัดกินระบบเราดีกว่า อย่าคิดล้มกระถาง แล้วอ้างว่าแค่อยากจัดแจกันใหม่เลยครับ” นายพงษ์พลระบุ
