ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มลาวเด็กหงส์แดง ขายปืนออนไลน์หาเงินฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก พร้อมรวบวัยรุ่นสมุยสร้างตัว โพสต์รับจำนำปืนและรถออนไลน์ และจับนายหน้าบัญชีม้าคาห้างดัง
ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหาร ระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร., พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
วันอังคารที่ 27 พ.ค.68 เวลา 11.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มลาวเด็กหงส์แดง ขายปืนออนไลน์หาเงินฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก พร้อมรวบวัยรุ่นสมุยสร้างตัว โพสต์รับจำนำปืนและรถออนไลน์ และจับนายหน้าบัญชีม้าคาห้างดัง
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเร่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนนำมาสู่ผลการปฏิบัติดังนี้
1. จับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนผิดกฎหมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 1 ราย
- รวบหนุ่มลาวเด็กหงส์แดง ขายปืนออนไลน์หาเงินฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก จำนวน 1 ราย
2. จับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจรับจำนำผิดกฎหมาย
- รวบวัยรุ่นสมุยสร้างตัว โพสต์รับจำนำปืนและรถออนไลน์ จำนวน 1 ราย
3. จับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับการซื้อขายบัญชีม้า จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 1 ราย
- รวบเอเยนต์บัญชีม้ากลางห้างดัง ฟันค่านายหน้านับครึ่งแสนต่อครั้ง จำนวน 1 ราย
จับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนผิดกฎหมาย
ปฏิบัติการที่ 1 : กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 รวบหนุ่มลาวเด็กหงส์แดง ขายปืนออนไลน์หาเงินฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้สืบสวนพบเบาะแสการซื้อขายอาวุธปืนผิดกฎหมายในกลุ่มสาธารณะกลุ่มหนึ่งบนแอปพลิเคชัน Facebook ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีสมาชิกกว่า 20,000 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มและติดต่อขอซื้ออาวุธปืนจากผู้ใช้บัญชี Facebook ชื่อ “Oven Ven”

จากนั้นบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวตกลงขายอาวุธปืนขนาด .380 ให้จำนวน 1 กระบอก ในราคา 18,000 บาท โดยนัดหมายส่งมอบของกันบริเวณซอยตรงข้ามวัดแห่งหนึ่งใน ต.บ่อกวางทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี
ต่อมา พ.ต.ท.นพดล บุตรวงษ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ในสังกัดได้วางกำลังบริเวณจุดนัดหมาย เมื่อถึงเวลานัดพบ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบชายรายหนึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาบริเวณจุดนัดพบ จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลางเป็นอาวุธปืนสั้นแปลงขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 7 นัด และซองบรรจุกระสุนปืน (แม็กกาซีน) จำนวน 1 อัน
จากการตรวจสอบชายคนดังกล่าว พบว่าเป็นชายสัญชาติลาว ทราบชื่อ นายสุลิพอน หรือ โอเวน อายุ 29 ปี

สอบถาม นายโอเวน ยอมรับว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนจริง โดยตนเองเข้ามาทำงานในประเทศไทยเพื่อประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปได้ประมาณ 8-9 ปีแล้ว ตนเองมีความชื่นชอบในเรื่องอาวุธปืน จึงได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊ก หรือเพจเฟซบุ๊กที่ขายอาวุธปืนต่างๆ ต่อมาได้เห็นช่องทางทำมาหากินและอยากมีเงิน จึงเริ่มซื้อปืนมาและขายไป จนสามารถทำกำไรกระบอกละ 3,000-5,000 บาท จึงได้ทำเรื่อยมา
ส่วนปืนของกลางกระบอกล่าสุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้นั้น ตนเองซื้อมาจากคนในกลุ่มดังกล่าวในราคา 15,000 บาท และตั้งใจนำมาขายต่อในราคา 18,000 บาท และตัวเองนั้นชื่นชอบทีมฟุตบอลลิเวอร์พูล จนตั้งชื่อเล่นตัวเองตอนอยู่ประเทศไทยและชื่อเฟซบุ๊กว่า “โอเวน” ซึ่งคล้ายกับ “ไมเคิล โอเวน” อดีตนักเตะกองหน้าชาวอังกฤษของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล โดยตั้งใจไว้ว่า หากขายอาวุธปืนกระบอกนี้ได้แล้ว จะแบ่งเงินมาซื้อเบียร์เพื่อดื่มฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก 2024/25 ที่ผ่านมาให้แก่ทีมรักของตนเอง แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้เสียก่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” และ “พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีใบอนุญาต” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พร้อมเร่งขยายผลถึงที่มาของอาวุธปืนและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดต่อไป
จับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจรับจำนำผิดกฎหมาย
ปฏิบัติการที่ 2 : กก.3 บก.สอท.5 รวบวัยรุ่นสมุยสร้างตัว โพสต์รับจำนำปืนและรถออนไลน์
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 ได้สืบสวนพบบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Sky Phu Chaweng” ได้โพสต์ข้อความประกาศรับจำนำรถ อาวุธปืน และทรัพย์สินมีค่าต่าง ๆ ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กของตนเอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบอีกว่าบัญชีโซเชียลดังกล่าวมีการโพสต์รูปอาวุธปืนและวิดีโอคลิปยิงปืนหลายครั้ง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมาย กระทั่ง พ.ต.อ.สุทธิชัย เทียนโพธิ์ ผกก.3 บก.สอท.5 ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดเกาะสมุย ที่ ค.19/2568 ลงวันที่ 23 พ.ค. 68 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.6 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

จากการเข้าตรวจค้น พบนายวิวุฒิธนิน หรือ กาย อายุ 20 ปี โดยภายในบ้านตรวจพบรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งจำนวน 6 คัน ทั้งที่มีป้ายทะเบียนและไม่มีป้ายทะเบียน ได้แก่
- รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีแดง ป้ายทะเบียน จ.นครศรีธรรมราช
- รถจักรยานยนต์ คาวาซากิ รุ่นเคอาร์ สีน้ำเงิน-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
- รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นเอ็มสแลส สีน้ำเงิน-ขาว ป้ายทะเบียน จ.สุราษฎร์ธานี
- รถจักรยานยนต์ คาวาซากิ รุ่นเคแอลเอ็ก คลิก สีเหลือง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
- รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง
- รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน–ดำ ป้ายทะเบียน จ.สุราษฎร์ธานี
สอบถามเบื้องต้น นายกายอ้างว่ารถจักรยานยนต์ทั้งหมดเป็นของตนเอง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในบ้าน พบเล่มใบคู่มือจดทะเบียนรถจักรยานยนต์จำนวน 4 เล่ม และจากการตรวจสอบหมายเลขทะเบียน พบว่าชื่อผู้ครอบครองเป็นชื่อของบุคคลอื่นทั้งหมด
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของนายกาย และจากการตรวจสอบพบแชทสนทนาเกี่ยวกับการรับจำนำรถจักรยานยนต์
สุดท้ายเจ้าตัวจึงยอมรับสารภาพเนื่องจากจำนนต่อหลักฐาน โดยให้ข้อมูลว่าเคยโพสต์ข้อความรับจำนำรถจักรยานยนต์และอาวุธปืนจริง และได้รับจำนำของมีค่าจากกลุ่มวัยรุ่นและชาวบ้านในพื้นที่เกาะสมุยจริง โดยดำเนินการมาแล้วประมาณ 1 ปีโดยไม่เคยขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย ส่วนภาพอาวุธปืนที่โพสต์ เจ้าตัวอ้างว่าเป็นของคนอื่นซึ่งนำมาถ่ายภาพเท่านั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ประกอบธุรกิจโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ มาตรา 8 ประกอบมาตรา 39” นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับการซื้อขายบัญชีม้า
ปฏิบัติการที่ 3 : กก.4 บก.สอท.1 รวบเอเยนต์บัญชีม้ากลางห้างดัง ฟันค่านายหน้านับครึ่งแสนต่อครั้ง
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.1 ได้ตรวจสอบพบบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “ไทรรัตน์ เอาใจงาม” ได้โพสต์ประกาศในกลุ่มเฟซบุ๊กต่าง ๆ เพื่อหาคนสนใจรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร โดยให้ผู้ที่สนใจติดต่อผ่านเมสเซนเจอร์ของเฟซบุ๊ก
จากการสืบสวนทำให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า หากมีผู้ติดต่อขอรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารหรือซิมการ์ด เจ้าของเฟซบุ๊กจะนัดพบกับผู้รับจ้างด้วยตนเอง โดยให้ค่าจ้างเปิดบัญชีละ 4,000 บาท ทั้งในรูปแบบเงินสดและโอนเงิน จากนั้นบัญชีที่เปิดจะถูกนำไปส่งมอบให้กับบุคคลที่มารอรับบริเวณหน้าด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยเจ้าของเฟซบุ๊กจะได้รับค่านายหน้าในการขายบัญชีม้าครั้งละประมาณ 30,000 – 50,000 บาท
ต่อมา พ.ต.ท.ธเนศ มากสกุล สว.กก.4 บก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดได้สืบจนพบข้อมูลว่า จะมีการนัดหมายเปิดบัญชีและส่งมอบของกันบริเวณลานจอดรถภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายจรินทร์ อายุ 32 ปี ชาวสมุทรสาคร พร้อมของกลางเป็นสมุดบัญชีธนาคาร 51 เล่ม, ซิมการ์ดโทรศัพท์ 51 ซิม และโทรศัพท์มือถือ 26 เครื่อง
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่าหรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งสืบสวนขยายผลเพื่อนำผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

