กรุงเทพฯ – นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในรายการเสียงจากใจไทยคู่ฟ้า ออกอากาศเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคและผู้ประกอบการไทยอย่างเท่าเทียม โดยได้สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าเชิงรุก ปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน และธุรกิจต่างชาติที่หลีกเลี่ยงกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศ
ทั้งนี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ได้ส่งชุดปฏิบัติการ “สุดซอย” ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่องตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา สามารถตรวจยึดและอายัดสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมมูลค่ากว่า 690 ล้านบาท พบการแอบอ้างสัญชาติธุรกิจ แอบใช้ชื่อคนไทยบังหน้า ลักลอบนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน และจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า ล่าสุด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเขตปลอดอากร หรือ “ฟรีโซน” ที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี จากเบาะแสว่ามีการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศเข้ามาโดยผิดกฎหมาย พบของเสียจากต่างประเทศกว่า 118 ตัน ปะปนมากับตู้คอนเทนเนอร์จากสหรัฐฯ เข้าข่ายเป็นของเสียอันตราย ผิดกฎหมายไทยและผิดอนุสัญญาระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังพบการประกอบกิจการโดยไม่ได้รับใบอนุญาตครบถ้วน ขยายกิจการเกินขอบเขต และใช้วัตถุดิบนำเข้าทั้งหมด จึงมีคำสั่งให้ยุติกิจการ และส่งคืนของเสียกลับประเทศต้นทางภายใน 30 วัน พร้อมดำเนินคดีถึงที่สุด
ขณะเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรมยังได้เร่งยกระดับมาตรฐานสินค้าไทย โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. เตรียมออกมาตรฐานใหม่เพิ่มเติมกว่า 160 รายการภายในปีนี้ ครอบคลุมทั้งสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมการแพทย์ ยางรถยนต์ เหล็ก และพลาสติก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย
“รัฐบาลขอยืนยันความมุ่งมั่นในการดูแลประชาชนให้ได้รับสินค้าและบริการที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพ ปลอดภัย และเป็นธรรม เพราะมาตรฐานที่เข้มแข็งในวันนี้ คือรากฐานของเศรษฐกิจไทยที่มั่นคงในวันข้างหน้า” นางสาวศศิกานต์ ทิ้งท้าย
