นายพานทองแท้ ชินวัตร แสดงความคิดเห็นกรณีที่มีแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายรายจะแยกออกไปตั้งพรรคใหม่ ว่า ยังไม่ชัดเจนอะไร ตนไม่มีความเห็น เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคลของแต่ละท่าน ส่วนคนที่จะสืบทอดอำนาจนั้น ตนไม่เห็นด้วย และเมื่อถูกถามว่าพรรคการเมืองแรกที่สนใจจะไปทำงานด้วย คือ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ใช่หรือไม่ นายพานทองแท้ กล่าวว่า ยังไม่ขอพูดอะไร

ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล อดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย และอดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงการเปิดตัวพรรคไทยรักษาชาติ( ทษช.) ในวันที่ 7 พ.ย.61 ว่า ตนจะไปร่วมงานในฐานะสมาชิกพรรคที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แพร่ และอาจทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคณะทำงานยุทธศาสตร์พรรค แต่จะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค

“การย้ายออกจากพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ความแตกแยก หรือไม่พอใจแกนนำพรรคบางคน อาจเป็นเรื่องของแนวคิดทางด้านนโยบายของแต่ละคน และหลายๆสาเหตุ ทำให้เราต้องช่วยกันคนละฝั่ง ซึ่งหลังวันที่ 7 พ.ย.นี้ จะทยอยเปิดตัวคนอื่นๆ ที่ตัดสินใจมาร่วมสังกัดใหม่ และภายในเดือน พ.ย.นี้ จะประกาศผู้สมัครลงรับเลือกตั้งทั้งหมด” นายวรวัจน์ กล่าว

เมื่อถามว่าเกรงจะถูกมองว่าเป็นการฮั้วกันในทางการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคไทยรักษาชาติหรือไม่ นายวรวัจน์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่การฮั้วกันระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรค ทษช.เพราะต่างคนต่างดำเนินการ แต่ในความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเราอาจใกล้ชิดกัน เพราะอยู่ด้วยกันมานานตั้งแต่พรรคไทยรักไทยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่คาดว่าจะมีแกนนำระดับอดีตรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย ยื่นใบลาออกจากพรรค เพื่อมาสมัครสมาชิกพรรค ทษช. อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ , นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ , นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน เป็นต้น ท่ามกลางข่าวลือสะพัดว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยกลุ่มนี้ไม่สามารถทำงาน ภายใต้การนำของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยได้