ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คาด 4 วัน เคลียร์พื้นที่ซากอาคาร สตง. เพื่อค้นหาผู้สูญหายได้หมด ก่อนส่งมอบพื้นที่คืนหน่วยงานที่รับผิดชอบ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายที่ติดค้างอยู่ในซากอาคาร สตง. แห่งใหม่ถล่ม ว่า การรื้อเป็นไปได้ดี ตอนนี้รื้อไปจนถึงบันไดที่เรียกว่า ST2 ของชั้นใต้ดิน ซึ่งไม่น่าจะมีผู้ติดค้างอยู่แล้ว ส่วนวันนี้จะเดินหน้าต่อที่บันไดฝั่งซ้าย หรือ ST1
โดยที่ผ่านมามีการรายงานตัวเลขผู้สูญหาย 8 คน แต่ทางตำรวจเพิ่มคนมาอีก 6 คน รวมคนที่ยังสูญหายจำนวน 14 คน นอกจากนี้มีชิ้นส่วนที่พบและได้ส่งให้พิสูจน์หลักฐานตำรวจที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวกลับมา ซึ่งยังรอการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ
ทั้งนี้ยังมีพื้นที่อีกไม่กี่พื้นที่ที่จะต้องทำการค้นหาเพิ่มเติม บริเวณโถงทางเดิน ST1 ที่เชื่อมไปยังอาคารจอดรถด้านหลัง และบริเวณรอบๆ อาคารที่มีของหล่นลงมาตกทับ คาดว่าจะยังคงทำงานต่อเนื่องอีกประมาณ 3-4 วันจะสามารถเปิดพื้นที่ได้หมด
ส่วนประเด็นคนที่เพิ่มมานั้น ส่วนตัวไม่ได้ดูในรายละเอียด เข้าใจว่าอาจจะมีการแจ้งไว้วันแรกและมีการสืบสวนกันเพิ่มเติม จึงจะต้องไปถามทางพิสูจน์หลักฐาน เพราะส่วนตัวไม่ได้ดูในรายละเอียดว่า 6 คนที่เพิ่มขึ้นมาจากส่วนไหนอย่างไร
ทั้งนี้ใน 6 คนนี้ อาจจะมีหนึ่งคน ที่เจอแล้วก็อาจจะมีความคลาดเคลื่อน แต่เราจะเดินหน้าค้นหาต่อไป
นายชัชชาติ ยังบอกอีกว่า ส่วนการพิสูจน์หลักฐาน ทางกรมโยธาธิการร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เดินหน้าตลอด พยายามให้ความร่วมมือเต็มที่จะให้มีการเก็บหลักฐานในส่วนไหนก็จะทำไว้ให้ ซึ่งมีจัดการเก็บตัวอย่างไปหลาย 100 ชิ้นตัวอย่างแล้ว ส่วนหลังจากนี้จะต้องไปตรวจสอบดูว่าในพื้นที่ไหนที่จะต้องทำการยุติการค้นหา ก่อนจะมีการส่งคืนพื้นที่โดยได้แจ้งกับผู้รับผิดชอบไปแล้วว่าจะต้องมีวันหนึ่งที่จะต้องถอนออกจากพื้นที่ ทาง สตง. คงจะต้องเป็นเจ้าของเรื่องที่จะต้องไปดำเนินการต่อทั้งจุดเกิดเหตุ และจุดที่นำซากเหล็ก ปูน ฯลฯ ไปวางไว้บริเวณพื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย
พร้อมยืนยันว่า “ไม่มีอะไรหนักใจ เราทำหน้าที่ของเราไป ที่กังวลคือทำไม 14 คนยังหาไม่เจอ เพราะมีการเปิดพื้นที่ไปเยอะมากแล้ว แต่ยังเหลือโซนสุดท้ายบริเวณช่องบันไดทางซ้ายมือ”
ศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานข้อมูล การตรวจพิสูจน์ยืนยันเอกลักษณ์บุคคลได้แล้วจำนวน 63 ราย ส่งคืนศพให้ญาติเรียบร้อยแล้วจำนวน 45 ราย โดยมีศพและชิ้นส่วนศพที่รับเข้าระบบนต.รพ.ตร. จำนวน 78 ราย 286 ชิ้นส่วน
